Page 148 - รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการวิจัยการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทย และความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน
P. 148
ตีความใครมีหน้าที่ตีความ ตอนแรกเหมือนจะเป็น ๓ วิชาชีพแต่คนที่จะระบุได้คือพนักงานสอบสวน
แต่บางทีพนักงานสอบสวนไม่ได้อยู่ในที่สัมภาษณ์ก็จะไปยอมเซ็นให้
อีกเรื่องหนึ่งที่อยากให้ชัดเจนก็คือเรื่องเงินตอบแทน อาจจะมีแนวออกมาให้ผู้ปฏิบัตินําไปใช้ได้
จริง อย่างกรณีอนุญาตให้ผู้เสียหายออกไปทํางาน คือกฎหมายดี แต่มันขัดกับความถูกต้อง คือการ
ทํางานมันต้องมี work permit ซึ่งจะทําได้ก็ต้องมีเลขประจําตัว ๑๓ หลัก ซึ่งต้องไปติดต่อกรมการจัดหา
งาน เพื่อที่จะขอหนังสือทํางานในประเทศ แต่อันนี้สามารถออกไปทําได้เลย ซึ่งมันขัดกับความถูกต้อง
แต่หลักการปฏิบัติยังเกิดได้แค่ผู้เสียหายที่เป็นผู้ชาย แต่ผู้หญิงหลักการปฏิบัติยังไม่สามารถออกไปทํางาน
ได้ มันไม่ใช่จุดอ่อนของ พ.ร.บ. แต่เป็นเรื่องของการนําไปใช้ การนําไปพัฒนาการปฏิบัติ เหมือนการ
พยายามแปลความหมายของกฎหมายให้นําไปสู่การปฏิบัติที่แท้จริง ผู้ปฏิบัติถึงจะนําไปใช้อย่างถูกต้อง
ถ้ามันยังยากอยู่ในการนําไปปฏิบัติมันก็ยังยาก
ยังมีเรื่องของการเรียกร้องค่าเสียหายคือทําให้เข้าใจง่ายๆต่อผู้ปฏิบัติ โดยส่วนมากในนักสังคม
สงเคราะห์ซึ่งอาจจะมีความรู้ที่จํากัดในข้อกฎหมาย ก็อาจจะเป็นการให้ความรู้กับนักสังคมสงเคราะห์
เพราะนักสังคมสงเคราะห์เป็นผู้ที่อยู่ใกล้กับผู้เสียหายมากที่สุด ถ้าเขามีความรู้ด้านกฎหมายพอทีจะช่วยใน
การเรียกร้องค่าชดเชยให้กับผู้เสียหายได้
นอกจาก พรบ. การปูองกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ปี ๒๕๕๑ แล้ว ยังมี พรบ. การฟอกเงิน
พรบ. ที่เกี่ยวกับการชดเชยค่าเสียหายในคดีอาญา พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก ในส่วนนี้ก็มีใช้อยู่แต่ถ้าจะหา
อะไรที่เกี่ยวข้องมาเอาผิดผู้กระทําผิดให้มันครบถ้วน การทํางานของแต่ละสหวิชาชีพก็จะทําให้การมอง
ผู้รับบริการได้หลายอย่างหลากหลาย และนํากฎหมายนําไปใช้ให้ได้มากที่สุด เอาผิดผู้กระทําผิดให้ได้มาก
ที่สุด
กฎหมายที่ควรปรับปรุงแก้ไขคือเรื่องของค่าตอบแทนในคดีอาญาที่ให้แต่ละคนมาขึ้นศาลก็จะมี
ค่าตอบแทนในการที่มาขึ้นศาลอย่างเช่นพยาน ค่าตอบแทนค่าเดินทาง อาหาร ซึ่งป๎จจุบันมันได้น้อย
มาก และเบิกได้ ๑ – ๒ ครั้งเท่านั้น แต่การขึ้นศาลของพยานมันต้องขึ้นมากกว่า ๒ ครั้ง จึงเป็นภาระของ
พยาน
นอกจากปรับปรุงข้อกฎหมายดังกล่าวแล้วขอให้ข้อเสนอแนะเรื่องการประสานงานระหว่าง
หน่วยงานหลักของภาครัฐ คือทุกท่านทํางานอย่างเต็มที่แต่ไม่มีการประสานงานกันมันก็ไม่เกิด
ประสิทธิภาพ อยากให้มีการประสานงานมากขึ้น ได้ข้อมูลมาแล้วไม่เก็บไว้ที่ตัวเองคนเดียว มีการดูว่า
ข้อมูลนั้นมันเกี่ยวกับใครแล้วก็ส่งต่อ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางานได้
บทสรุปบทบาทขององค์กรภาคประชาสังคม
จากการสัมภาษณ์เจาะลึกผู้บริหารขององค์กรภาคประชาสังคม ๑๐ องค์กร ทําให้ได้ข้อมูลอย่าง
ชัดเจนด้านบทบาทขององค์กรภาคประชาสังคม ป๎ญหาอุปสรรคในการดําเนินงาน ความคิดเห็นต่อการ
ปฏิบัติงานของหน่วยงานรัฐ ความคิดเห็นต่อ พ.ร.บ. การปูองกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ปี ๒๕๕๑
และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ความคิดเห็นต่อสถานการณ์การค้ามนุษย์ หลังจากเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจ
อาเซียน การปรับปรุงกฎหมาย และนโยบายเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้นในการปูองกันและปราบปราม
การค้ามนุษย์
โดยภาพรวม บทบาทขององค์กรภาคประชาสังคมค่อนข้างลงลึก เกาะติดป๎ญหา มีความเข้าใจ
และใกล้ชิดกับเหยื่อของการค้ามนุษย์ สามารถช่วยเหลือเหยื่อของการค้ามนุษย์ได้เป็นอย่างดี มีบทบาททั้ง
๑๒๘