Page 149 - รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการวิจัยการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทย และความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน
P. 149
เชิงปูองกันและแก้ไขป๎ญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าได้ดี การมีบทบาทดังกล่าว ได้รับการยอมรับจากหน่วยงาน
รัฐ และเหยื่อของการค้ามนุษย์ค่อนข้างมาก มีเพียงบางองค์กรที่รู้สึกว่าไม่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงาน
รัฐ ในขณะที่ได้รับการยอมรับจากองค์กรนานาชาติมากกว่า
ป๎ญหาอุปสรรคในการดําเนินงานขององค์กรภาคประชาสังคมคือการสนับสนุนจากภาครัฐด้าน
งบประมาณ การเข้าถึงกองทุนต่อต้านการค้ามนุษย์ยังเป็นไปได้ยาก จึงยังต้องพึ่งพิงแหล่งเงินทุนจาก
ต่างประเทศเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีป๎ญหาอุปสรรคที่เกิดจากการตีความกฎหมายที่แตกต่างกัน
โดยเฉพาะการคัดแยกเหยื่อ ยังมีการตีความที่แตกต่างจากเจ้าหน้าที่ตํารวจในระดับปฏิบัติการที่มักจะยึด
ติดกับเรื่องความสมัครใจของเหยื่อในการเดินทางหรือการประกอบอาชีพขายบริการทางเพศโดยไม่
วิเคราะห์ให้ลึกซึ้งลงไปว่ามีการถูกหลอกลวงหรือมีขบวนการค้ามนุษย์อยู่เบื้องหลังหรือไม่
เรื่องความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงานของหน่วยงานรัฐองค์กรภาคประชาสังคมมีความคิดเห็นไปในแนว
เดียวกันว่า หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องยังไม่ทํางานเชิงรุกเท่าที่ควร เจ้าหน้าที่ตํารวจยังคงปล่อยปะละเลยต่อ
ป๎ญหาหรือปรากฏการณ์ที่เห็นเฉพาะหน้า โดยเฉพาะเรื่องการบังคับเด็กขอทาน สื่อลามก ร้านอาหาร
ร้านคาราโอเกะที่มีบริการทางเพศแฝงอยู่ซึ่งมีอยู่ทั่วไป ไม่มีการติดตาม สอบสวน การปล่อยปะละเลย
ดังกล่าว องค์กรภาคประชาสังคมเห็นว่าเกิดจากการคอรับชั่น การได้รับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการ
ธุรกิจค้ามนุษย์
ความคิดเห็นต่อ พรบ. การปูองกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ปี ๒๕๕๑ องค์กรภาคประชา
สังคมมีความคิดเห็นไปในแนวเดียวกันว่า เป็นกฎหมายที่ดี แต่มีป๎ญหาในขั้นการนําไปสู่การปฏิบัติ การ
ตีความ การบังคับใช้กฎหมาย การกําหนดกลไกคณะกรรมการปูองกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ที่รวม
ศูนย์ การนํากฎหมายฉบับอื่นที่เกี่ยวข้องควบคู่กับกฎหมายแม่บทฉบับนี้ ได้แก่ พรบ.ปูองกันและ
ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ พ.ร.บ.ค่าตอบแทนแก่ผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่
จําเลยในคดีอาญา พ.ศ.๒๕๔๔ พรบ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ มาเอาผิดผู้กระทําผิดให้มันครบถ้วนจึง
เป็นเรื่องที่สําคัญและจําเป็นอย่างยิ่ง
ความคิดเห็นต่อสถานการณ์การค้ามนุษย์หลังจากเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน องค์กรภาค
ประชาสังคมส่วนใหญ่เห็นว่าจะทําให้ป๎ญหาการค้ามนุษย์มีความรุนแรงมากขึ้นซึ่งต้องมีมาตรการรองรับที่
เข้มแข็ง แต่มีบางองค์กรที่เห็นว่าไม่เกี่ยวกันเพราะป๎ญหาการค้ามนุษย์มีอยู่แล้ว แต่จะรุนแรงมากขึ้น
หรือไม่นั้นไม่อาจคาดเดาได้
เรื่องการปรับปรุงกฎหมาย และนโยบายเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้นในการปูองกันและ
ปราบปรามการค้ามนุษย์ องค์กรภาคประชาสังคมเห็นว่า ควรปรับปรุงข้อกฎหมายบางข้อให้มีความชัดเจน
ขึ้นเพื่อแก้ป๎ญหาการตีความที่แตกต่างกัน ควรปรับปรุงข้อกฎหมายเรื่องค่าตอบแทนพยานในคดีอาญาซึ่ง
ป๎จจุบันได้น้อยมาก เพื่อไม่ให้กลายเป็นภาระของพยาน
เรื่องข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต่อภาครัฐ องค์กรภาคประชาสังคมเห็นเป็นเอกภาพว่า รัฐบาลต้อง
เอาจริงเอาจังกับนโยบายการปูองกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ให้มากขึ้น และปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง
รัฐบาลต้องกระจายอํานาจให้ทุกภาคส่วนในสังคมเข้ามามีส่วนร่วม เป็นหูเป็นตา เฝูาระวัง จึงจะทําให้การ
แก้ไขป๎ญหาครอบคลุมทุกพื้นที่ รัฐบาลต้องมีการประสานงานกันอย่างมีประสิทธิภาพ มีการส่งต่อข้อมูล
ถึงกัน มีฐานข้อมูลที่ใช้ร่วมกันได้
๑๒๙