Page 32 - รายงานการศึกษาวิจัย มาตรฐานสากลในการดำเนินธุรกิจเพื่อการเคารพสิทธิมนุษยชน
P. 32
มาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลของ GRI มีการปรับปรุงให้ทันต่อสถานการณ์มาแล้ว 4 ครั้ง
มาตรฐานแรกที่เรียกว่า G1 ปี พ.ศ. 2542 ต่อมามีการปรับปรุงเป็น G2 ในปี พ.ศ. 2545 ซึ่ง GRI ได้รับ
การรับรองอย่างเป็นทางการจากองค์กรความร่วมมือของโครงการสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติ (UNEP)
หลังจากการนั้นมีการพัฒนาตัวชี้วัดร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางธุรกิจ ภาคประชาสังคม และขบวนการ
เคลื่อนไหวด้านแรงงานกว่า 3,000 คน และได้เผยแพร่ตัวชี้วัด G3 ในปี พ.ศ. 2549 ก่อนที่จะมี
การปรับปรุงอีกครั้งเป็น G4 ที่เริ่มใช้เมื่อปี พ.ศ. 2556 (GRI, n.d.)
ปัจจุบันมีผู้ใช้ชุดหลักเกณฑ์ของ GRI มากกว่า 2,500 องค์กร ในกว่า 70 ประเทศ ซึ่งเป็นบริษัท
ในประเทศไทย 32 บริษัท (นารีรัตน์, 2558) ที่ใช้ชุดหลักเกณฑ์ของ GRI ในการจัดทำารายงาน
ความยั่งยืนประจำาปี บางบริษัททำารายงานแยกเป็น 2 ฉบับ คือ Corporate Governance Report
(รายงานเกี่ยวกับธรรมาภิบาลบริษัท) และ CSR Report (รายงานเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคม)
เกณฑ์ GRI ช่วยให้บริษัทต่างๆ ประเมินแนวทางการพัฒนา จัดการ และเพิ่มประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน
และทำาให้ผู้สังเกตการณ์สามารถเปรียบเทียบผลงานระหว่างบริษัทได้
แต่ละปีบริษัทจะจัดทำารายงานความยั่งยืนที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบและการดำาเนินงาน
ด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม โดยใช้มาตรฐานของ GRI เป็นแนวทางซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อมูล
เชิงปริมาณ นอกจากนี้ บริษัทต่างๆ ยังจัดทำาตัวชี้วัดเฉพาะด้านที่ตนเองและผู้มีส่วนได้เสียเห็นว่า
สำาคัญต่อธุรกิจ
มาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลตามแนวทางของ GRI แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1) มาตรฐาน
การเปิดเผยข้อมูลทั่วไป ซึ่งเป็นการเปิดเผยบริบททั้งหมดของรายงาน และให้ข้อมูลของบริษัทและกระบวนการ
รายงานในมาตรฐานนี้ประกอบด้วยมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูล 7 ประเภท โดยครอบคลุมกลยุทธ์ของ
บริษัทในประเด็นความยั่งยืน ความเกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้เสีย รวมทั้งการดำาเนินการในประเด็นสำาคัญ
เช่น ธรรมาภิบาล จริยธรรม และความซื่อตรงของบริษัท 2) มาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลเฉพาะเรื่อง
ซึ่งจำาแนกออกเป็น 2 ด้าน คือ การจัดการ (Management Approach) และตัวชี้วัด (Indicators)
การเปิดเผยข้อมูลระดับมาตรฐานมี 2 ประเภท คือ 1) มาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลทั่วไป (General
Standard Disclosures) ได้แก่ กลยุทธ์องค์กร ข้อมูลทั่วไปของบริษัท มิติและขอบเขตของข้อมูล
ประเด็นการรายงาน การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย คุณลักษณะของรายงาน ธรรมาภิบาล และ
การปฏิบัติด้านจริยธรรม และ 2) มาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลเฉพาะเรื่อง (Specific Standard 31
Disclosures) ซึ่งจำาแนกออกเป็น 3 มิติ คือ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม สำาหรับมิติทางสังคม
สามารถแบ่งออกเป็น 1) การปฏิบัติด้านแรงงานและประสิทธิภาพการทำางานที่มีคุณค่า 2) สิทธิมนุษยชน
3) สังคม และ 4) ความรับผิดชอบด้านผลิตภัณฑ์
งานวิจัยชิ้นนี้ศึกษามาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลเฉพาะประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งประกอบด้วย
ตัวชี้วัดด้านสิทธิมนุษยชน 12 หัวข้อ (G4-HR1-HR12)
เนื่องจากเป็นตัวชี้วัดที่มีรูปแบบการรายงานของบริษัทเอง และ GRI ไม่บังคับให้ต้องมีการตรวจสอบ
จากภายนอก ทำาให้มีการตั้งคำาถามถึงคุณภาพและความถูกต้องของรายงาน ข้อดีของการให้บริษัท
จัดทำารายงานเอง คือ บริษัทรู้สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของตัวเองมากที่สุด เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย
รายงานการศึกษาวิจัยมาตรฐานสากลในการดำาเนินธุรกิจเพื่อการคารพสิทธิมนุษยชน
59-09-116 001-128 vijai lem4 i_coated.indd 31 9/24/16 1:50 PM

