Page 27 - รายงานการศึกษาวิจัย มาตรฐานสากลในการดำเนินธุรกิจเพื่อการเคารพสิทธิมนุษยชน
P. 27

หลักการชี้แนะนี้ใช้เป็นกรอบสำาหรับรัฐในการกำากับดูแลให้ภาคเอกชนเคารพสิทธิมนุษยชน

                       ด้วยการจัดทำา ‘พิมพ์เขียว’ สำาหรับบริษัทต่างๆ ในการจัดการความเสี่ยงในการละเมิดสิทธิมนุษยชน
                       ที่ไม่พึงประสงค์  โดยได้รับการสนับสนุนจากภาคธุรกิจและประชาสังคม เช่นเดียวกับจากรัฐต่างๆ มี
                       องค์กรระหว่างประเทศและระดับภูมิภาคให้ความเห็น โดยวางอยู่บนหลัก 3 ประการ คือ


                            1)  การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (Protect) โดยรัฐมีหน้าที่ในการคุ้มครองไม่ให้มีการละเมิด

                                 สิทธิมนุษยชนจากองค์กรของรัฐหรือบุคคลที่สาม ซึ่งหมายรวมถึงองค์กรภาคธุรกิจด้วย
                            2)  การเคารพสิทธิมนุษยชน (Respect) องค์กรและบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องค์กรภาคธุรกิจ

                                 มีหน้าที่ในการเคารพสิทธิมนุษยชน

                            3)  การเยียวยา (Remedy) เมื่อมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้น  รัฐจะต้องจัดให้มีการ
                                 เยียวยาที่เหมาะสม รวมทั้งเรียกร้องให้องค์กรภาคธุรกิจควรจัดให้มีช่องทางในการ

                                 ร้องเรียนและเยียวยาเมื่อมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้นด้วย ไม่ว่าโดยกิจการนั้นเอง
                                 หรือการรวมกลุ่มองค์กรภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องที่ได้รวมกันเป็นสมาคมธุรกิจ นอกจาก

                                 จะเป็นมาตรฐานสากลในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนแล้ว ยังเป็นการชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยง
                                 ในการละเมิดสิทธิมนุษยชนอันจะเกิดจากการประกอบธุรกิจ (United Nations, 2011)


                            หลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชนได้นำาเสนอหลักการและวิธีการสำาหรับบริษัท
                       ให้สามารถนำาไปใช้เพื่อให้รับผิดชอบทางสิทธิมนุษยชนได้  เพื่อให้ธุรกิจมีแนวทางที่ชัดเจนในการ

                       รับผิดชอบทางสิทธิมนุษยชน เนื้อหาของหลักปฏิบัตินี้จำาแนกออกเป็น 3 ส่วน สำาหรับรัฐ ภาคเอกชน
                       และกลไกการเยียวยา (United Nations, 2011)

                            สำาหรับกลไกการบังคับใช้ เนื่องจากหลักการชี้แนะนี้ใช้เป็นกรอบแนวคิดสำาหรับองค์กรต่างๆ เพื่อ

                       จัดการความเสี่ยงจากผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน และนำาเสนอบรรทัดฐานสำาหรับผู้มีส่วนได้เสียในการ
                       ประเมินการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของภาคเอกชน (United Nations Human Rights Office of the

                       High Commission, 2012) โดยสมัครใจเท่านั้น จึงมิได้กำาหนดกลไกบังคับในการปฏิบัติที่ชัดเจนแต่อย่างใด


                            อาจกล่าวได้ว่าหลักการชี้แนะนี้เปิดโอกาสให้บริษัทดำาเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ โดยพิจารณา
        26             ถึงผลกระทบขององค์กรต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ อย่างไรก็ตาม มีข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่า

                            1)  ไม่ได้ระบุอย่างเฉพาะเจาะจงว่าบริษัทต้องปฏิบัติอย่างไรเพื่อแสดงความรับผิดชอบ

                                 ด้านสิทธิมนุษยชน เพียงแต่นำาเสนอมาตรฐานที่ให้บริษัทนำาไปปรับใช้เท่านั้น
                            2)  ไม่รวมการกำากับดูแลอื่นๆ เช่น แนวปฏิบัติของ OECD หรือองค์การแรงงานระหว่างประเทศ

                                 รวมทั้งการดำาเนินการภายใต้กฎหมายของแต่ละประเทศเข้ามา ทำาให้บริษัทไม่สามารถนำา
                                 หลักปฏิบัติชุดนี้ไปประยุกต์ใช้โดยลำาพังอย่างเพียงพอ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีกลไก

                                 การกำากับดูแลที่ชัดเจนและกว้างขวางกว่า การอ้างว่าตนเองปฏิบัติตามหลักการนี้
                                 ไม่สามารถปกป้องบริษัทจากการฟ้องร้องทางกฎหมาย หรือการวิพากษ์วิจารณ์ของ

                                 สาธารณะได้






                                           รายงานการศึกษาวิจัยมาตรฐานสากลในการดำาเนินธุรกิจเพื่อการคารพสิทธิมนุษยชน



        59-09-116 001-128 vijai lem4 i_coated.indd   26                                                            9/24/16   1:50 PM
   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32