Page 49 - รายงานผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ
P. 49

๒๒



                              เจตนำรมณ์ของกฎหมำยต้องกำรให้ควำมช่วยเหลือกับประชำชนให้มีที่ดินท ำกินและใช้

               ชีวิตเช่นเดียวกับประชำชนทั่วไป จึงบัญญัติให้ปิดนิคมหลังจำกกำรจัดนิคมบรรลุผลตำมควำมมุ่งหมำยแล้ว
               แต่กลับกลำยเป็นว่ำทำงรำชกำรต้องคงสภำพนิคมมำจนถึงปัจจุบันเกือบทั้งหมด เพรำะไม่สำมำรถปิดนิคม

               แห่งใดได้ เนื่องจำกข้อกฎหมำยในเรื่องคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับเอกสำรสิทธิ

                              วิธีกำรจัดที่ดินตำมแนวทำงของกฎหมำยนี้รัฐบำลไม่สนับสนุนให้ด ำเนินกำรอีกต่อไป แต่ให้

               ไปใช้แนวทำงปฏิรูปที่ดิน จึงมีแนวคิดที่จะรวมกฎหมำยนี้กับกฎหมำยจัดที่ดินอื่นเข้ำด้วยกัน


               (กรมส่งเสริมสหกรณ์, 255๗ /ศูนย์ศึกษำนโยบำยที่ดิน คณะนิติศำสตร์ จุฬำลงกรณ์มหำวิทยำลัย, 25๕๗)

                      2.1.๓ ส านักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม : พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดิน

                              เพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518



                              ความเป็นมา

                           หลังเหตุกำรณ์ 14  ตุลำคม พ.ศ. 2516  ได้มีกลุ่มชำวไร่ชำวนำ นักศึกษำ นักกำรเมือง

               เดินขบวนเรียกร้องหลำยครั้ง สำเหตุส ำคัญมำจำก ปัญหำที่ดินท ำกินและกำรถูกเอำรัดเอำเปรียบ

               จำกนำยทุน มีควำมเหลื่อมล้ ำในกำรถือครองที่ดิน

                           รัฐบำลในสมัย ฯพณฯ นำยสัญญำ ธรรมศักดิ์ จึงได้แก้ไขปัญหำดังกล่ำว โดยประกำศใช้

               พระรำชบัญญัติกำรปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 6  มีนำคม พ.ศ. 2518

               โดยมีหลักกำรและเหตุผล ดังนี้

                           ประไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ประชำกรส่วนใหญ่มีอำชีพในกำรเกษตร ที่ดินจึงเป็น

               ปัจจัยส ำคัญและเป็นรำกฐำนเบื้องต้นของกำรผลิตทำงเกษตรกรรม แต่ปัจจุบันปรำกฏว่ำ เกษตรกรก ำลัง
               ประสบควำมเดือดร้อน เนื่องจำกต้องสูญเสียสิทธิในที่ดินและกลำยเป็นผู้เช่ำที่ดินต้องเสียค่ำเช่ำในอัตรำสูง

               เกินสมควร ที่ดินขำดกำรบ ำรุงรักษำ จึงท ำให้อัตรำกำรผลิตผลเกษตรกรรมอยู่ในระดับต่ ำ เกษตรกรไม่ได้

               รับควำมเป็นธรรมและเสียเปรียบจำกกำรเช่ำที่ดินและกำรจ ำหน่ำยผลผลิตตลอดมำ ซึ่งส่งผลให้เกิดควำม
               ยุ่งยำกทั้งในทำงเศรษฐกิจ สังคม กำรปกครองและกำรเมืองของประเทศเป็นอย่ำงมำก จึงเป็นควำมจ ำเป็น

               อย่ำงยิ่งที่รัฐจะต้องด ำเนินกำรแก้ไขปัญหำดังกล่ำวโดยด่วนที่สุด โดยวิธีกำรปฏิรูปที่ดินเพื่อช่วยให้

               เกษตรกรมีที่ดินท ำกินและให้กำรใช้ที่ดินเกิดประโยชน์มำกที่สุด พร้อมกับกำรจัดระบบกำรผลิตและ

               จ ำหน่ำยผลผลิตเกษตรกรรมเพื่อให้ควำมเป็นธรรมแก่เกษตรกร ทั้งนี้ เพื่อเป็นกำรสนองแนวนโยบำยแห่ง
               รัฐในกำรลดควำมเหลื่อมล้ ำในฐำนะของบุคคลในทำงเศรษฐกิจและสังคม
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54