Page 211 - รายงานผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ
P. 211
๑๘๔
ปฏิบัติงานโดยให้การมีส่วนร่วมเข้าถึงชีวิตจิตใจของประชาชนชาวไทย อันจะเป็นการเชิดชูเรื่อง
สิทธิมนุษยชนและความเป็นประชาธิปไตยของประเทศ
๗. ควรแก้ไขกฎหมาย ในกรณีที่พบว่า มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยคณะกรรมการสิทธิ
มนุษยชนแห่งชาติตรวจสอบแล้ว มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนจริง หากหน่วยงานรัฐไม่ด าเนินการแก้ไข
ภายในระยะเวลาอันสมควร ตามมาตรา 29 มาตรา 30 และมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน พ.ศ. 2542 ประชาชนหรือชุมชนผู้ได้รับผลกระทบ มีอ านาจที่จะฟ้อง
เรียกร้องค่าเสียหาย ค่าชดเชยจากกรณีที่โดนละเมิดสิทธิได้ ซึ่งในกรณีนี้จะช่วยท าให้หน่วยงานของรัฐ
เร่งรัดที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน โดยเฉพาะในเรื่องแนวเขตที่ได้ด าเนินการผิดพลาดไป โดยศาลจะ
เป็นผู้พิพากษาในเรื่องของค่าเสียหายหรือค่าชดเชยที่ประชาชนจะได้รับการเยียวยา หรือสั่งการให้
หน่วยงานแก้ไขโดยวิธีการอื่นควบคู่ไปด้วย
นอกจากนี้ ควรให้มีการแก้ไขปัญหาการทับซ้อนที่ดินของรัฐอย่างเร่งด่วนเป็นกรณีเฉพาะ ได้แก่
กรณีที่เคยมีมติคณะรัฐมนตรี หรือมติข้อตกลงร่วมกันแล้ว หรือเกิดการผิดพลาดในการจัดท าแผนที่ หรือ
กรณีที่เป็นปัญหาเรื้อรังยาวนานกระทบต่อประชาชนจ านวนมาก เช่น กรณีอุทยานแห่งชาติทับลาน
อ าเภอวังน้ าเขียว จังหวัดนครราชสีมา กรณีอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น จังหวัดสุราษฎร์ธานี กรณีอุทยาน
แห่งชาติศรีนครินทร์ อ าเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี และกรณีการก าหนดแนวเขตหวงห้ามที่ดิน และ
หนังสือส าคัญส าหรับที่หลวงพื้นที่หนองหาร จังหวัดสกลนคร รวมถึงการทบทวนการจ าแนกเขตที่ดิน
ที่จ าแนกเป็นโซน E๑ ที่เป็นพื้นที่ท ากินมาก่อน ให้สามารถน าไปออกเอกสารสิทธิตามพระราชบัญญัติ
การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้ เช่น กรณีบ้านตากแดด ต าบลยางหัก อ าเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี
เป็นต้น
๘. รัฐต้องก าหนดแผน และเป้าหมายกับการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สงวนหวงห้ามของรัฐ
โดยก าหนดมาตรการ งบประมาณ และผู้รับผิดชอบอย่างชัดเจนเพื่อก าหนดให้เป็นมาตรฐานอย่างเดียวกัน
ในกรณีผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสถูกจับกุม ควรมีกองทุนหรือหน่วยงานที่ให้การช่วยเหลือในการ
ประกันตัวและเร่งรัดให้มีการพิจารณาคดีให้เร็ว ทั้งมิให้กระทบกับการท ากินเพื่อเลี้ยงชีพ โดยให้หน่วยงาน
ที่มีหน้าที่ช่วยเหลือด้านที่ดินท ากินรับไปช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
ส าหรับหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องดูแลป่าไม้ อุทยานแห่งชาติ เขตอนุรักษ์ต่างๆ ควรให้ชุมชน
หรือหน่วยงานระดับท้องถิ่นมีอ านาจในการดูแลรักษาแนวเขต เพื่อให้คนในท้องถิ่นหรือชุมชน มีส านึก
ในเรื่องของส่วนรวม และคานอ านาจกันระหว่างรัฐกับท้องถิ่นหรือชุมชน ซึ่งนอกจากจะท าให้ประชาชน
ทราบพื้นที่ของแนวเขตหวงห้ามโดยแพร่หลายแล้ว จะได้ร่วมมือกันดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาได้