Page 206 - รายงานผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ
P. 206
๑๗๙
(2) ควรให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น โดยให้ภาครัฐจัดตั้งกลไกการแก้ไขปัญหา
ที่ดินแนวเขตทุกระดับก่อนที่จะประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เพื่อให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการก าหนด
กฎเกณฑ์ในการใช้ประโยชน์ในที่ดินและรักษาพื้นที่ป่า รวมทั้งให้ภาคประชาชนและท้องถิ่นเข้าร่วมเป็น
คณะท างาน หรือออกส ารวจพื้นที่ร่วมกัน
(3) ภาครัฐควรเร่งจัดท าแนวเขตให้มีความชัดเจน มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงาน
เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินที่ทับซ้อนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน รัฐควรแก้ไขปัญหาแนวเขตให้
เป็นปัจจุบัน ด าเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
(4) ภาครัฐควรบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ด าเนินการตามกฎหมายไม่เน้นบุคคลใด
บุคคลหนึ่ง รวมทั้งร่วมกันแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องของทุกหน่วยงานให้มีความทันสมัยและเป็นปัจจุบัน
(5) การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับที่ดินของรัฐต้องเร่งแก้ไขในระหว่างที่
รัฐบาลมีอ านาจเต็มภายในปี พ.ศ. 2558 ควรเร่งจัดท าแผนแม่บทในการก าหนดเขตที่ดินของรัฐทุกแปลง
โดยตั้งคณะท างานระดับจังหวัดให้เป็นผู้เสนอแนวทางและน าเข้าสภานิติบัญญัติออกเป็นกฎหมาย
ในด้านการจัดท าแนวเขต การมีส่วนร่วมของประชาชน และพื้นที่กรณีศึกษา สามารถวิเคราะได้
ว่าการก าหนดแนวเขตของพื้นที่สงวนหวงห้ามของรัฐได้ด าเนินการตามนโยบายในการรักษาพื้นที่ของรัฐไว้
เพื่อประโยชน์สาธารณะและรักษาสภาพแวดล้อม แต่ในการด าเนินงานยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไขให้บรรลุ
ไม่ให้กระทบกับสิทธิในการถือครองที่ดินของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่แห่งนั้น ก่อนด าเนินการประกาศใช้
เป็นกฎหมายบังคับ หรือต้องด าเนินการหาทางแก้ไขเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเสียก่อน เมื่อด าเนินการไป
แล้วยังต้องดูแลรักษาพื้นที่เหล่านั้น เพื่อให้มีสภาพที่มั่นคงไม่เสียหายหรือเสื่อมสภาพไป
สามารถวิเคราะห์ถึงสภาพปัญหา แนวทางในการปฏิบัติของการมีส่วนร่วมของประชาชนในการ
ก าหนดแนวเขตที่ดินของรัฐได้ ๘ ประเด็น คือ
๑. การมีส่วนร่วมของประชาชน และความสัมพันธ์ของการมีส่วนร่วม ข้อมูลข่าวสาร และ
การกระจายอ านาจ พบว่า การมีส่วนร่วมของประชาชน ไม่มีการด าเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่มีองค์กร
รับผิดขอบหลักที่มีหน้าที่ในการก าหนดหลักเกณฑ์ ประชาชนและส่วนราชการยังไม่เห็นความส าคัญ
ของการมีส่วนร่วม ขาดรูปแบบการมีส่วนร่วมที่แท้จริง โครงสร้างระบบราชการไม่เกื้อหนุนให้ประชาชน
สามารถเข้าไปมีส่วนร่วม รัฐมิได้ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ส าหรับความสัมพันธ์กัน
ระหว่างการมีส่วนร่วม ข้อมูลข่าวสาร และการกระจายอ านาจ พบว่า ไม่มีความสัมพันธ์กัน กฎหมายด้าน
การมีส่วนร่วม การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และการกระจายอ านาจ ได้แยกหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบออก
จากกัน แยกกันด าเนินการ ไม่เป็นเอกภาพที่จะให้เกิดการบูรณาการ ส่งผลถึงการให้ประชาชนเข้าไปมี
ส่วนร่วมไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร
๒. การทับซ้อนของแนวเขตที่ดินของรัฐกระทบสิทธิในที่ดินของประชาชน พบว่า การก าหนด
แนวเขตที่ดินของรัฐและมีการทับซ้อนกันระหว่างหน่วยงานภายในด้วยกัน มีการทับซ้อนกันระหว่าง
หน่วยงาน ยังพบอีกว่าหน่วยงานของรัฐเป็นผู้ด าเนินการก าหนดแนวเขต โดยประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ