Page 207 - รายงานผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ
P. 207

๑๘๐



               จากการจัดท าแนวเขตไม่ทราบข้อมูลในพื้นที่จริงว่าขอบเขตพื้นที่ที่ก าหนดเป็นอย่างไร แม้ว่าพบ

               ข้อผิดพลาดแล้วก็ตาม แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ยังไม่ได้มีการแก้ไข ทั้งยังมีความล่าช้า หน่วยงาน
               ผู้รับผิดชอบยังไม่ด าเนินการในการแก้ไขปัญหาให้ลุล่วง รวมทั้ง การไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องปัญหา

               การทับซ้อนแนวเขตระหว่างหน่วยงาน
                       ๓. การพิจารณาออกกฎกระทรวง หรือ พระราชกฤษฎีกา ก าหนดให้มีแผนที่แนบท้ายอันถือเป็น

               ส่วนหนึ่งของกฎหมาย พบว่า ส านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามีเฉพาะผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย
               แต่ไม่มีความรู้ในด้านแผนที่ ท าให้เกิดความล่าช้า เกิดความผิดพลาดในการจัดท าแผนที่แนบท้ายพระราช

               กฤษฎีกาหรือกฎกระทรวง ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงในพื้นที่ที่ก าหนดในรูปแผนที่
                       ๔.  การก าหนดแนวเขตพื้นที่สงวนหวงห้ามของรัฐ  พบว่า ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ถูกก าหนด

               ขอบเขตเหล่านี้ เป็นผู้กระท าผิดตามกฎหมาย วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป กระทบสิทธิของประชาชน ละเมิดสิทธิ
               มนุษยชน และไม่มีหน่วยงานใดเข้ามารับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

                       ๕.  การจ าแนกที่ดิน และการก าหนดแนวเขตที่ดิน  พบว่า การจ าแนกที่ดิน และการก าหนด
               แนวเขตที่ดินเพื่อการพัฒนาประเทศและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่ผ่านมา ประกอบกับจ านวน

               ประชากรที่เพิ่มขึ้น มีการใช้ประโยชน์ในที่ดินอันหลากหลาย มีวิชาการใหม่ๆ ในการใช้ประโยชน์ในที่ดิน
               ท าให้การใช้เส้นที่แสดงลักษณะความสูงต่ าของพื้นที่เป็นตัวก าหนดแนวเขตที่ดินตามการจ าแนก เป็นการ

               ด าเนินการที่ล้าสมัย และไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงตามความเหมาะสมในการใช้ประโยชน์ตามศักยภาพของ
               พื้นที่

                       ๖. การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ พบว่า รัฐไม่มีการสร้างความ
               เข้าใจกับประชาชน ให้ตระหนักถึงการเป็นพื้นที่แหล่งต้นน้ าล าธารที่ต้องมีการใช้ประโยชน์ร่วมกัน รักษาไว้

               ให้คงอยู่ สร้างการมีส่วนร่วมให้ประชาชนเข้าใจในด้านการอนุรักษ์อย่างถูกวิธี และก าหนดวิธีการในการ
               อยู่กับพื้นที่ควรสงวนรักษาอย่างยิ่งนั้น แต่ในการด าเนินงานของหน่วยงานของรัฐที่ผ่านมา มีแต่ต้องการ

               อพยพโยกย้ายประชาชนแห่งท้องที่นั้นเพียงอย่างเดียว ไม่แก้ไขโดยวิธีอื่น ท าให้ขาดการมีส่วนร่วม
               ของประชาชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ที่มีผลกระทบกับระบบนิเวศ

                       ๗.  กระบวนการยุติธรรมกับการก าหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ  พบว่า การก าหนดแนวเขตที่ดิน
               ของรัฐที่เกิดการทับซ้อนที่ดินของประชาชนและท าให้ประชาขนเหล่านั้นเป็นผู้ที่ผิดกฎหมาย ถูกจับกุม

               ด าเนินคดีตามที่กฎหมายก าหนด มีการเลือกปฏิบัติ มีการปล่อยปละละเลยต่อผู้กระท าความผิด มีการ
               ด าเนินการทางคดีกับผู้ด้อยโอกาสและยากจนมากกว่านายทุนหรือผู้มีอิทธิพลหรือนักการเมือง

               กระบวนการยุติธรรมใช้ระยะเวลานาน ผู้ยากจนไม่มีเงินประกันตัวและต่อสู้คดี
                       ๘. ปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐ พบว่า ผลจากการก าหนดแนวเขตพื้นที่สงวนหวงห้ามของรัฐ โดยที่

               มิได้ให้ประชาชนหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าไปมีส่วนร่วมในการด าเนินงาน ท าให้เกิดปัญหากระทบสิทธิ
               ของประชาชนในด้านที่ดินท ากินและที่อยู่อาศัย มีข้อโต้แย้งอันเนื่องมาจากประชาชนไม่ทราบข้อมูลและ

               ข้อเท็จจริงของหน่วยงานของรัฐที่ก าหนด หน่วยงานของรัฐไม่ทราบถึงความไม่พอใจของประชาชนและ
               ไม่มีการเร่งรัดแก้ไขปัญหา
   202   203   204   205   206   207   208   209   210   211   212