Page 163 - รายงานผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ
P. 163
๑๓๖
ถือครองท าประโยชน์ของประชาชนที่ทับซ้อนกับแนวเขตอุทยานฯ จ านวน ๒๘,๗๗๐ ไร่ และ
คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ มีมติเห็นชอบในหลักการให้เพิกถอนพื้นที่ดังกล่าวออกจากเขตอุทยานฯ
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๖ ทั้งนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ไม่อาจด าเนินการต่อได้ เนื่องจาก
รัฐบาลมีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๑ ต้องใช้ผลการพิสูจน์การส ารวจการถือครอง
ที่ดินของประชาชนในส่วนพื้นที่ที่มิได้กันออกเสียก่อน และยุติลงในปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ในช่วงนายสุวิทย์
คุณกิตติ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ข้อยุติการปรับปรุงแก้ไขปัญหาแนวเขตอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นดังกล่าว.ท าให้
เกิดปัญหาแนวเขตอุทยานแห่งขาติใต้ร่มเย็นทับซ้อนกับพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินในท้องที่ต าบลบ้านส้อง
อ าเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าวอยู่ในแนวเขตพื้นที่ที่ก าลังด าเนินการ
เพิกถอนจากเขตอุทยานแห่งชาติ แต่เมื่อยังไม่มีการด าเนินการเพิกถอน จึงกลายเป็นปัญหาการทับซ้อน
ระหว่างพื้นที่อุทยานแห่งชาติกับเขตปฏิรูปที่ดิน และปัจจุบันยังไม่สามารถหาข้อยุติแนวเขตร่วมกันของ
ทั้งสองหน่วยงานได้ ท าให้ประชาชนที่ได้รับสิทธิจากการปฏิรูปที่ดินได้รับความเดือดร้อนถูกด าเนินคดี
บุกรุกอุทยานแห่งชาติ
(๒) ความเป็นมาและสภาพปัญหา ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากการก าหนดแนวเขตที่ดิน
ของรัฐ และกระบวนการแก้ไขปัญหาของรัฐที่ผ่านมา
ความเป็นมาและสภาพปัญหา
อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น มีพื้นที่ประมาณ ๒๖๕,๖๒๕ ไร่ ประกาศให้เป็นอุทยาน
แห่งชาติเมื่อในปี พ.ศ. ๒๕๓๔ ครอบคลุมพื้นที่อ าเภอเวียงสระ อ าเภอนาสาร และอ าเภอกาญจนดิษฐ์
จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งประชาชนในพื้นที่ไม่ทราบว่ามีการประกาศอุทยานแห่งชาติดังกล่าว จนกระทั่งในปี
ถัดมาเจ้าหน้าที่อุทยานห้ามมิให้ประชาชนเก็บเกี่ยวพืชผลอาสิน และน าเครื่องมือการเกษตรเข้าไปในพื้นที่
ประชาชนจึงทราบว่ารัฐได้ประกาศอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นทับซ้อนที่ดินท ากินของตน โดยหน่วยงาน
ของรัฐไม่ได้ให้ข้อมูลกับประชาชนเกี่ยวกับการเตรียมการประกาศอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นมาก่อน
ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นต้นมา ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการประกาศ
อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น อ าเภอเวียงสระ อ าเภอนาสาร และอ าเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ได้ร้องเรียนกับหน่วยงานรัฐให้แก้ไขแนวเขตอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นที่ทับซ้อนที่ดินท ากินของประชาชน
และจัดท าแนวเขตอุทยานแห่งชาติให้ชัดเจนต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งที่ในระยะเวลาผ่านมา
กระบวนการแก้ไขปัญหาได้ด าเนินการมาเกือบจะได้ข้อยุติ เหลือเพียงขั้นตอนการออกพระราชกฤษฎีกา
เพิกถอนที่ดินท ากินที่กันออกจากแนวเขตอุทยานฯ เท่านั้น แต่รัฐบาลได้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย
โดยไม่ยอมรับมติหรือข้อตกลงที่ด าเนินการมาก่อนหน้า (รูปที่ 4.9)
ทั้งนี้ คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติมีมติเมื่อวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๓๘ เห็นชอบ
ในหลักการให้ปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นที่ทับซ้อนที่ดินท ากินของประชาชน รวมเนื้อที่