Page 32 - สิทธิในกระบวนการยุติธรรมและสิทธิของบุคคลในเกียรติยศและชื่อเสียง กรณีการนำตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาไปนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพและการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
P. 32
๗) การประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านกฎหมายและ
การปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม ครั้งที่ ๑๓/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๔
ผู้แทนสถ�บันนิติวิทย�ศ�สตร์ ให้ข้อมูลและข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการนำาชี้ที่เกิดเหตุ
ประกอบคำารับสารภาพและการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน สรุปได้ดังนี้
ผู้แทนสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ขอนำาเรียนเฉพาะมุมมองของนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่ง
กระบวนการของนิติวิทยาศาสตร์ในเรื่องของสถานที่เกิดเหตุ เป็นการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อ
ประกอบการพิจารณาของศาล ปัจจุบันได้มีการใช้พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อใช้เป็น
หลักฐานในการยืนยันว่า บุคคลนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานที่เกิดเหตุหรือมีการกระทำาต่อผู้เสียหาย
ซึ่งในทางนิติวิทยาศาสตร์ไม่มีความจำาเป็นที่จะต้องใช้พยานหลักฐานของคน หากมีหลักฐานทาง
นิติวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันชัดเจนว่าบุคคลนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำาความผิด แต่ผลกระทบที่อาจ
เกิดขึ้นจากการที่อาจมีบุคคลเข้าไปในสถานที่เกิดเหตุ โดยสิ่งที่จะทำาให้เกิดความเสียหายค่อนข้างมาก
คือ การเข้าไปทำาลายพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เช่น มีการหยิบ จับ หรือเคลื่อนย้ายสิ่งของ เป็นต้น
หากมีบุคคลเข้าไปในที่เกิดเหตุโดยที่ยังรวบรวมพยานหลักฐานไม่ครบ หรือต้องมีการรวบรวมพยาน
หลักฐานเพิ่มเติม อาจไม่สามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมจากที่เกิดเหตุนั้นได้
กรณีที่มีการนำาตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาไปนำาชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำารับสารภาพ
หากไม่เป็นการทำาให้วัตถุพยานในที่เกิดเหตุเสียไปก็ไม่มีผลต่อการรวบรวมพยานหลักฐาน ในกรณี
ที่ไม่มีพยานหลักฐานอื่น ซึ่งต้องใช้พยานบุคคลนำาชี้ที่เกิดเหตุเพื่อนำาไปสู่การแสวงหาพยานหลักฐานอื่น
รวมทั้งพยานหลักฐานทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ด้วย
การนำาชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำารับสารภาพก็ยังมีความจำาเป็น ถึงแม้ว่าจะมีวัตถุพยาน
ในที่เกิดเหตุหรือมีการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเป็นการดูรูปการว่ามีความสอดคล้อง รวมทั้ง
เป็นการสังเกตพฤติกรรมในการก่อเหตุ เช่น สภาพจิตใจของผู้ต้องหา เวลาที่อยู่ในที่เกิดเหตุกับเวลาที่
อยู่ภายในห้องสอบปากคำาจะมีความแตกต่างกัน ฯลฯ และสังเกตปฏิกิริยาตอบสนองต่อบุคคลรอบข้าง
แต่อย่างไรก็ตาม วัตถุประสงค์ในการนำาชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำารับสารภาพเพื่อเป็นการรวบรวมพยาน
หลักฐานประกอบสำานวนในการดำาเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม โดยอาจให้ผู้แทนจากหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในการนำาชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำารับสารภาพ และไม่จำาเป็นที่ต้องเผยแพร่ภาพ
โดยตามหลักกฎหมายการนำาชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำารับสารภาพยังมีความจำาเป็น แต่ควรมีการปรับ
เปลี่ยนวิธีการ
การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน อาจเป็นการกระทบสิทธิได้โดยง่าย เนื่องจากการนำาตัว
ผู้ต้องหาไปแถลงข่าว ทำาให้สังคมตีตราว่าบุคคลนั้นเป็นผู้กระทำาผิด โดยที่ยังไม่ผ่านกระบวนการ
ยุติธรรมที่ตัดสินหรือชี้ชัดว่าบุคคลนั้นเป็นผู้กระทำาผิด ซึ่งในมุมมองของผู้นำาเสนออาจเห็นว่า การนำา
ตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าวเพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้กับสังคม ซึ่งวิธีการหรือการให้ความรู้กับสังคม
อาจใช้วิธีการอื่นที่ไม่กระทบต่อสิทธิของผู้ต้องหาได้ โดยการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนส่งผลกระทบทั้ง
ในทางบวกและในทางลบ คือ ผลกระทบในทางบวกเป็นการให้สังคมรับรู้ว่า มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นและ
31
สิทธิในกระบวนการยุติธรรม และสิทธิของบุคคลในเกียรติยศและชื่อเสียง
กรณีการนำาตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาไปนำาชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำารับสารภาพ และการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน