Page 36 - สิทธิในกระบวนการยุติธรรมและสิทธิของบุคคลในเกียรติยศและชื่อเสียง กรณีการนำตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาไปนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพและการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
P. 36
ประเด็นที่ ๓ ความเห็นและแนวทางในการหาวิธีการทดแทนการนำาชี้ที่เกิดเหตุ
ประกอบคำารับสารภาพและการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน จากประสบการณ์การทำางานที่ผ่านมา
ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการในการสรรหาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และ
กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แถลงข่าว ซึ่งสื่อมวลชนบางราย
มีการตั้งคำาถามแล้วทำาให้ผู้ตอบคำาถามรู้สึกขาดเสรีภาพในการตอบและอึดอัด โดยสื่อมวลชนต้องการ
ถามคำาถามง่ายๆ และต้องการได้รับคำาตอบง่ายๆ ซึ่งในการตั้งคำาถามต้องถามก่อนว่าเหตุเกิดจากอะไร
จึงทำาให้ผลเกิดขึ้น ทั้งนี้ การรับรู้และการตอบคำาถามต่อสื่อมวลชน ผู้ที่ต้องตอบคำาถามกับสื่อมวลชน
จะต้องรับรู้และรับทราบในสิทธิและเสรีภาพตนเองในการตอบคำาถาม ความรับผิดชอบของผู้ตอบคำาถาม
ซึ่งผู้ให้ข่าวหรือแหล่งข่าวกับสื่อมวลชนยังคงต้องพึ่งพาอาศัยกัน
ความรู้ด้านกฎหมายสำาหรับสื่อมวลชนเป็นเรื่องที่จำาเป็น เนื่องจากกฎหมาย คือ
วิศวกรของสังคม เป็นตัวกำาหนดทิศทางและกรอบการทำางาน โดยปัจจุบันสื่อมวลชนไม่ได้รับทราบ
ในเรื่องกฎหมายกันมากนัก โดยแนวทางและวิธีการแก้ไข คือ ความรู้เท่าทันสื่อมวลชน ซึ่งในการ
นำาเสนอข้อมูลข่าวสารของสื่อมวลชนจะเป็นการนำาเสนอเพียงบางส่วนเท่านั้น โดยสื่อมวลชนปฏิเสธ
ไม่ได้ว่าจะต้องให้ได้ข่าวและนำาเสนอข่าวก่อนสถานีช่องอื่น รวมทั้งประชาชนก็มีส่วนในการทำาให้
สื่อมวลชนเป็นเช่นนี้ เนื่องจากประชาชนชอบที่จะดูภาพข่าวที่มีการใช้ความรุนแรง หรือภาพข่าวที่ทำาให้
เกิดความสลดหดหู่ใจ ซึ่งเป็นการตอกย้ำาทำาให้เกิดความโกรธแค้น ความเกลียดชัง เป็นต้น โดยใน
ต่างประเทศจะไม่มีการนำาเสนอภาพข่าวที่ทำาให้เกิดความสลดหดหู่ใจ ขณะนี้กำาลังศึกษาในเรื่องของ
การเก็บข้อมูลและการนำาเสนอข่าวสารของสื่อมวลชน
สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยพยายามที่จะเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับรู้ว่า
ประชาชนสามารถที่จะร้องเรียนผ่านสภาวิชาชีพฯ ได้ โดยธรรมนูญสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
พ.ศ. ๒๕๕๒ หมวด ๔ การพิจารณาเรื่องร้องเรียน
ข้อ ๑๙ ระบุว่า “ผู้ได้รับความเสียหายจากข้อความ เสียง หรือภาพที่ปรากฏในข่าว
หรือรายการข่าว ที่ผลิตโดยสมาชิกหรือจากพฤติกรรมของผู้ประกอบวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์
ที่สังกัดสมาชิก ซึ่งผู้เสียหายเห็นว่าขัดต่อข้อบังคับสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยว่าด้วยจริยธรรม
แห่งวิชาชีพ ให้แจ้งเป็นหนังสือพร้อมด้วยพยานหลักฐานต่อสถานีหรือผู้ผลิตรายการนั้นโดยตรงเสียก่อน
เพื่อให้สถานีหรือรายการนั้นดำาเนินการบรรเทาความเสียหายตามควรแก่กรณี”
ข้อ ๒๐ ระบุว่า “เมื่อผู้เสียหายได้ดำาเนินการตามข้อ ๑๙ แล้วถูกปฏิเสธหรือเพิกเฉย
ที่จะดำาเนินการใดๆ จากสถานีหรือผู้ผลิตรายการซึ่งเป็นมูลเหตุให้เกิดความเสียหาย หรือเมื่อผู้เสียหาย
เห็นว่าการบรรเทาความเสียหายของสถานีหรือผู้ผลิตรายการตามข้อ ๑๙ ไม่เป็นที่พอใจจนเห็นได้ชัด
ผู้เสียหายมีสิทธิร้องเรียนเป็นหนังสือพร้อมด้วยพยานหลักฐานต่อคณะกรรมการได้ภายในสามสิบวัน
นับแต่วันได้รับทราบความเสียหายนั้น
การยื่นเรื่องร้องเรียนให้ทำาตามแบบที่คณะกรรมการกำาหนด”
ข้อ ๒๑ ระบุว่า “เรื่องที่คณะกรรมการจะรับไว้พิจารณาดำาเนินการ มีหลักเกณฑ์ ดังนี้
35
สิทธิในกระบวนการยุติธรรม และสิทธิของบุคคลในเกียรติยศและชื่อเสียง
กรณีการนำาตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาไปนำาชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำารับสารภาพ และการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน