Page 72 - มาตรฐานและแนวทางการดำเนินงานของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 72
สถาบันฯ ส่วนใหญ่มักจะอนุญาตให้ยื่นข้อร้องเรียนในรูปแบบลายลักษณ์อักษร อย่างไรก็ตาม ก็ควรที่จะสามารถ
ยอมรับข้อร้องเรียนได้โดยปากเปล่าเช่นกัน ทั้งนี้ การรับข้อร้องเรียนไม่ควรต้องเสียค่าใช้จ่าย ผู้ร้องเรียนไม่ควรที่
จะต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งทางตรงหรือทางอ้อม อย่างไรก็ตาม กฎหมายสิทธิมนุษยชนบางข้อที่อนุญาตให้เรียก
ค่าเสียหายแก่ผู้ร้องเรียนได้ หากพบว่าผู้ร้องเรียนมีเจตนามุ่งร้าย หรือยื่นข้อร้องเรียนเพื่อให้เกิดความเชื่อที่ผิด อย่างไรก็ตาม
รูปแบบนี้ควรใช้เฉพาะเมื่อมีการสอบสวนแล้วพบว่าเป็นกรณีดังกล่าวอย่างชัดเจน
แบบฟอร์มการร้องเรียนอย่างเป็นทางการมักจะใช้เพื่อรวบรวมและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับข้อกล่าวหา
แบบฟอร์มควรให้กรอกข้อมูลที่จ�าเป็นทั้งหมด เพื่อใช้ตัดสินใจในการพิจารณาเบื้องต้นว่าจะสามารถ
รับข้อร้องเรียนได้หรือไม่ และเพื่อใช้ในการสอบสวนต่อไป หากรับข้อร้องเรียนนั้นเข้าสู่การพิจารณา
โดยปกติข้อมูลจะประกอบไปด้วย
1
ชื่อและรายละเอียดวิธีการติดต่อผู้ร้องเรียนและผู้ที่
ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน (หากเป็นคนละคนกัน)
2
ชื่อและรายละเอียด
วิธีการติดต่อของผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชน (หากรู้จัก)
3
บทสรุปข้อกล่าวหาหรือสถานการณ์ รวมทั้งข้อมูลว่า
เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เกิดขึ้นเมื่อใด กับใคร ใครเป็นผู้กระท�า เหตุการณ์เป็นอย่างไร
4
เป็นเรื่องที่เคยได้รับการพิจารณาหรืออยู่ระหว่างการพิจารณาจากองค์กร
ที่มีอ�านาจอื่น ๆ หรือภายใต้การตรวจสอบโดยหน่วยงานอื่น ๆ มาแล้วหรือไม่
การร้องเรียนอาจจะยื่นด้วยตนเอง หรือทางโทรศัพท์ หรือทางไปรษณีย์ หรือทางอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้
ในกรณีหลัง เจ้าหน้าที่ควรจะให้ความช่วยเหลือในการกรอกแบบฟอร์มการร้องเรียนให้สมบูรณ์
การมีจุดรับเรื่องร้องเรียนทั่วประเทศ ผ่านองค์กรตัวแทน หรือรูปแบบต่าง ๆ อาจเป็นวิธีการที่ดี โดยเฉพาะในพื้นที่
ห่างไกล แต่หากเป็นไปได้ การยื่นเรื่องร้องเรียนโดยตรงกับสถาบันฯ จะดีกว่า เพราะหากยื่นผ่านหน่วยงานรัฐอื่น ๆ อาจ
ท�าให้เกิดความล่าช้าของกระบวนการและจะไม่เป็นการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ร้องเรียน
71
มาตรฐานและแนวทางการด�าเนินงานของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ