Page 51 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยและรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2557
P. 51

50 รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และรายงานผลการปฏิบัติงานประจำาปี ๒๕๕๗








                         ๓)  การประเมินสถานการณ์

                              จากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองที่เกิดขึ้น  กสม. เห็นว่า การชุมนุมทางการเมือง
                    ที่มีผู้เข้าร่วมจำานวนมาก ทำาให้มีโอกาสจะเกิดความรุนแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในหลายมิติ

                    เช่น สิทธิในทรัพย์สิน สิทธิในการเดินทาง สิทธิในชีวิตและร่างกาย ทั้งต่อประชาชนทั่วไป ผู้ชุมนุม และ
                    เจ้าหน้าที่ที่รักษาความสงบเรียบร้อย  นอกจากนี้ ยังเกิดความยากลำาบากในการการควบคุมความสงบ

                    เรียบร้อยของการชุมนุม จนทำาให้เกิดการลอบทำาร้ายผู้ชุมนุม โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถติดตามจับกุม
                    ผู้กระทำาการละเมิดมาลงโทษได้  และเมื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องควบคุมสถานการณ์และบังคับใช้กฎหมาย

                    ก็เสี่ยงต่อการปะทะกับผู้ชุมนุมจนกลายเป็นเหตุการณ์รุนแรง  นอกจากนี้ เมื่อรัฐพยายามควบคุมการ
                    ชุมนุมไม่ให้ขยายวงกว้างออกไป  ก็มักจะเกิดการควบคุมสื่อและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น จนเกิน

                    สัดส่วนที่เหมาะสมและจำาเป็น  จากเหตุการณ์การชุมนุมของ กปปส.  กสม. เห็นว่า
                              F  รัฐบาลควรมีมาตรการดูแลความปลอดภัยของผู้ชุมนุม และเตรียมพร้อมในกรณีซึ่งอาจ

                                 เกิดเหตุไม่สงบขึ้นจากการชุมนุม การใช้อาวุธ หรือจากการเผชิญหน้าระหว่างผู้ชุมนุม
                                 กับกลุ่มบุคคลอื่น ๆ

                              F  รัฐบาลควรตระหนักถึงเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ และการปฏิบัติ
                                 ของเจ้าหน้าที่รัฐต่อผู้ชุมนุม ต้องสอดคล้องกับหลักการสากลของการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่

                                 ซึ่งมีอำานาจในการบังคับใช้กฎหมาย และหลักการใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่ โดยขอให้
                                 เจ้าหน้าที่ของรัฐยึดหลักการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ได้สัดส่วนเหมาะสม เท่าที่จำาเป็น

                                 ตามสถานการณ์ และคำานึงถึงผลลัพธ์ในทางสันติ
                              F  รัฐบาลควรเร่งดำาเนินการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงและติดตามผู้กระทำาความผิด

                                 มาดำาเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม
                              F  หน่วยงานของรัฐต้องรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามข้อเท็จจริงให้สาธารณชนได้

                                 รับทราบอย่างถูกต้อง รวดเร็ว ครบถ้วน รอบด้าน และดำาเนินการด้วยความระมัดระวัง
                              F  รัฐบาลควรควบคุมมิให้เกิดการยั่วยุ บิดเบือนข้อมูล โฆษณาชวนเชื่อ และการใช้ภาษา

                                 เพื่อสร้างความเกลียดชังระหว่างกัน (Hate Speech)
                              F  รัฐบาลควรตระหนักถึงผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพจากการใช้กฎหมายพิเศษ ได้แก่

                                 พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ พระราชกำาหนดการบริหารราชการ
                                 ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ และพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายใน

                                 ราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ ว่าต้องใช้เท่าที่จำาเป็นและเหมาะสม ตลอดจนผลกระทบ
                                 ที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การทำาให้สถานการณ์มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

                              F  ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง รัฐต้องคำานึงถึงหลักนิติรัฐ นิติธรรม การมีส่วนร่วม
                                 การยอมรับความแตกต่าง ตลอดจนการเคารพสิทธิมนุษยชน และการแก้ไขปัญหาสันติวิธี

                                 โดยคำานึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของประเทศเป็นสำาคัญ
   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56