Page 240 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยและรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2557
P. 240
รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และรายงานผลการปฏิบัติงานประจำาปี ๒๕๕๗ 239
(๒) ข้อเสนอแนะแนวทางและมาตรการที่เหมาะสมในการคุ้มครองสิทธิในการประกอบ
อาชีพของผู้ติดเชื้อเอชไอวี โดยใช้มาตรการอื่น ๆ
ข้อเสนอแนะจากผลการศึกษาวิจัยมีข้อเสนอต่อ กสม. ดังนี้
(๒.๑) การกำาหนดมาตรการที่ชัดเจนในการสนับสนุนการดำาเนินงานขององค์การเอกชน
ด้านสิทธิมนุษยชน ตลอดจนเจ้าของปัญหาที่ได้รับผลกระทบในการเลือกปฏิบัติและละเมิดสิทธิมนุษยชน
ในประเด็นดังกล่าว โดยอาจพิจารณาแนวทางการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในภาคประชาสังคม ด้วยการ
จัดตั้งกองทุนเพื่อส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมทั้งเสนอแนะไปยังรัฐบาลเพื่อให้มีการตั้งกองทุน
เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของผู้ติดเชื้อเอชไอวีผ่านคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกัน
และแก้ไขปัญหาเอดส์ (คช.ปอ.) ทั้งนี้ เพื่อลดช่องว่างในการดำาเนินงานเพื่อคุ้มครองสิทธิในการประกอบ
อาชีพของผู้ติดเชื้อเอชไอวีของภาครัฐ โดยยอมรับและสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือจากภาคประชาสังคม
และเสริมความเข้มแข็งให้กับองค์กรภาคประชาสังคม และเจ้าของปัญหาให้มีส่วนในการแก้ไขปัญหาอย่าง
ยั่งยืน โดยถือเป็นการใช้อำานาจตามมาตรา ๒๕๗ (๗) ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๕๕๐ และมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒
(๒.๒) การให้ความสำาคัญกับการแก้ไขปัญหาการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพ
ของผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ต้นเหตุ คือ การขาดความรู้ความเข้าใจที่สำาคัญในเรื่องการติดต่อและสิทธิของ
ผู้ติดเชื้อเอชไอวี จึงจำาเป็นต้องให้ความสำาคัญกับมาตรการสร้างความรู้ความเข้าใจเพื่อการแก้ไขปัญหา
การละเมิดสิทธิ ส่งเสริมให้มีการสร้างความรู้ความเข้าใจต่อสาธารณชนในเรื่องการติดเชื้อเอชไอวี
ความก้าวหน้าในการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี เพื่อเป็นการขจัดมายาคติอันเป็นสาเหตุสำาคัญของ
การเลือกปฏิบัติ โดยในการรณรงค์ให้ความรู้ ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของ กสม. ควรผนวกเนื้อหา
ที่ครอบคลุมถึงสิทธิมนุษยชนของผู้ติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งจำาเป็นต้องรวมไปถึงการเสริมความรู้เรื่องการติดเชื้อ
เอชไอวี ความก้าวหน้าในการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี เพื่อเป็นการขจัดมายาคติอันเป็นสาเหตุสำาคัญ
ของการเลือกปฏิบัติ และจำาเป็นต้องให้ความรู้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง
ต่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของผู้ติดเชื้อเอชไอวีด้วย
(๒.๓) การเร่งดำาเนินการตรวจสอบและเสนอมาตรการการแก้ไขโดยเร็ว ในกรณีที่มี
ข้อร้องเรียนเรื่องการเลือกปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการประกอบอาชีพหรือเรื่อง
การศึกษา ซึ่งมีอิทธิพลต่อการประกอบอาชีพในอนาคต เพื่อให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีเข้าถึงการคุ้มครอง
สิทธิมนุษยชนอย่างรวดเร็ว และในกรณีที่ กสม. ไม่สามารถแก้ไขปัญหาการเลือกปฏิบัติในการ
ประกอบอาชีพของผู้ติดเชื้อได้ ให้พิจารณาเสนอเรื่องไปยังกลไกในกระบวนการยุติธรรมตามบทบัญญัติ
ในรัฐธรรมนูญ ได้แก่ ศาลรัฐธรรมนูญ (มาตรา ๒๕๗ (๒)) หรือศาลปกครอง (มาตรา ๒๕๗ (๓))
ในกรณีที่เป็นการละเมิดสิทธิจากภาครัฐ แล้วเป็นโจทก์ฟ้องคดีต่อศาลยุติธรรมในกรณีที่เป็นการละเมิด
สิทธิในภาคเอกชน (มาตรา ๒๕๗ (๔)) หรือเป็นโจทก์ร่วมฟ้องคดีกับผู้เสียหาย เพื่อสร้างบรรทัดฐาน
การไม่เลือกปฏิบัติและการคุ้มครองสิทธิในการประกอบอาชีพของผู้ติดเชื้อเอชไอวีในอนาคต