Page 239 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยและรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2557
P. 239
238 รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และรายงานผลการปฏิบัติงานประจำาปี ๒๕๕๗
(๑) ข้อเสนอเชิงนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายเพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติ
ในการประกอบอาชีพของผู้ติดเชื้อเอชไอวี
จำาเป็นต้องมีการผลักดันกฎหมายเพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติ หรือกฎหมายเพื่อความ
เสมอภาคในภาพรวมในลักษณะเดียวกับกฎหมายเสมอภาคของประเทศสหราชอาณาจักร และเพื่อลด
้
ปัญหาการซำาเติมการเลือกปฏิบัติ และเสริมพลังการขับเคลื่อนกฎหมาย กฎหมายฉบับนี้ไม่จำาเป็นต้องเป็น
กฎหมายเฉพาะสำาหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี แต่ต้องสังเคราะห์ร่วมกับปัญหาการเลือกปฏิบัติในกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่
กลุ่มคนพิการ ผนวกกลุ่มเป้าหมายอื่นที่ประสบปัญหาการเลือกปฏิบัติด้วย โดย
(๑.๑) กสม. ผลักดันโดยตรงด้วยการเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุง
กฎหมายและกฎที่มีเนื้อหาขจัดการเลือกปฏิบัติ ต่อรัฐสภาหรือคณะรัฐมนตรี เพื่อคุ้มครองส่งเสริม
และคุ้มครองสิทธิมนุษยชนต่อผู้ที่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกเลือกปฏิบัติ ตามอำานาจหน้าที่ของ กสม. ในบทบัญญัติ
มาตรา ๒๕๗ (๕) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ โดยกำาหนดให้มีเนื้อหา
ที่ครอบคลุมการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อเอชไอวี รวมถึง
กลุ่มเป้าหมายอื่น ๆ ที่ประสบปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยแนวทางในการบัญญัติกฎหมายดังกล่าวจะต้อง
F ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งสิทธิ (Rights-based Approach)
F มีมิติเพื่อตอบสนองต่อหญิงชายอย่างเท่าเทียม (Gender Responsiveness)
F ให้ความสำาคัญกับรูปแบบของกลไกการร้องทุกข์ วิธีการเยียวยาและลักษณะของ
องค์กรที่ทำาหน้าที่รับเรื่องราวการร้องทุกข์และติดตามประเมินผลและการรายงาน
สำาหรับบทบัญญัติเพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพนั้น
F ส่งเสริมบทบาทของนายจ้าง องค์กรลูกจ้างและองค์กรภาคประชาสังคมเพื่อ
ส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิของกลุ่มผู้อาศัยอยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีทั้งในระหว่าง
การจัดหางาน การสมัครงานและการจ้างงาน
F มีบทลงโทษในกรณีการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพ การละเมิดสิทธิ
ส่วนบุคคล และการเปิดเผยข้อมูลลับต่าง ๆ ที่มีความชัดเจนและเพียงพอ ทั้งบท
ลงโทษทางอาญาและบทลงโทษทางแพ่งเพื่อป้องกันการเลือกปฏิบัติ
F ส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิของกลุ่มผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี ในรูปแบบของการ
ลดหย่อนอัตราภาษี หรือการยกเว้นภาษี หรือการสนับสนุนทางด้านตัวเงิน
หรือโครงการความรับผิดชอบต่อสังคมต่อสถานประกอบการ นายจ้างที่มีบทบาท
ในการส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิของกลุ่มอยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีถือเป็นประเด็น
ที่ควรนำามาพิจารณาประกอบการบัญญัติกฎหมาย
(๑.๒) กสม. ผลักดันทางอ้อม โดยสนับสนุนหรือดำาเนินการร่วมกับหน่วยงานอื่น
ที่ดำาเนินการอยู่แล้ว เช่น คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย และองค์กรเครือข่าย เครือข่ายคนพิการ
โดยกำาหนดให้มีเนื้อหาที่ครอบคลุมการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี และผู้ที่
ได้รับผลกระทบจากเชื้อเอชไอวีด้วย โดยมีแนวทางเดียวกับข้อ (๑.๑)