Page 214 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยและรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2557
P. 214

รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และรายงานผลการปฏิบัติงานประจำาปี ๒๕๕๗ 213











                                     (๒)  การเพิ่มฐานความผิดท้ายพระราชบัญญัติฯ ให้ครอบคลุมเรื่องความผิดฐานชิงทรัพย์

                       หรือปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บหรือถึงแก่ความตาย และความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์
                                     (๓)  เงื่อนไขการจ่ายค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายให้แก่จำาเลยในคดีอาญาให้ได้รับการเยียวยา

                       จากเดิมที่กำาหนดว่า ..... เมื่อศาลมีคำาสั่งยกฟ้อง หรือวันที่ศาลมีคำาสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้อง เพราะปรากฏ
                       หลักฐานชัดเจนว่า จำาเลยมิได้เป็นผู้กระทำาความผิด หรือวันที่มีคำาพิพากษาอันถึงที่สุดในคดีนั้น

                       ว่าข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าจำาเลยมิได้เป็นผู้กระทำาความผิด หรือการกระทำาของจำาเลยไม่เป็นความผิด ....
                       (มาตรา ๒๒) ควรแก้ไขเป็น เมื่อศาลมีคำาพิพากษายกฟ้อง

                                     (๔)  ทบทวนผู้ที่จะทำาหน้าที่ในการพิจารณาสั่งจ่ายค่าตอบแทนและค่าทดแทน
                       ในชั้นพิจารณาและในชั้นอุทธรณ์ จากเดิมที่กำาหนดให้คณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายและ

                       ค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำาเลยในคดีอาญามีหน้าที่พิจารณาอนุมัติค่าตอบแทน ค่าทดแทน หรือ
                       ค่าใช้จ่ายตามพระราชบัญญัตินี้ (มาตรา ๘)  และกรณีผู้ยื่นคำาขอไม่เห็นด้วยกับคำาวินิจฉัยของคณะกรรมการ

                       ให้มีสิทธิอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ (มาตรา ๒๕)  ควรแก้ไขเป็น ให้เจ้าหน้าที่ของกรมคุ้มครองสิทธิและ
                       เสรีภาพ รับผิดชอบพิจารณาจ่ายค่าตอบแทน ค่าทดแทน หรือค่าใช้จ่ายดังกล่าว และให้คณะกรรมการ

                       พิจารณาอุทธรณ์มีอำานาจหน้าที่พิจารณาคำาสั่งของเจ้าหน้าที่  ทั้งนี้ ให้คำาสั่งของคณะกรรมการพิจารณา
                       อุทธรณ์เป็นที่สุด เพื่อให้การพิจารณาในเบื้องต้นมีความรวดเร็วยิ่งขึ้นและให้ระบบการตัดสินใจอยู่ในระบบ

                       ของฝ่ายบริหาร

                                 ๒)  คณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงยุติธรรม (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) สำานักงานตำารวจ
                       แห่งชาติ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ควรศึกษาหลักเกณฑ์ แนวทาง การเยียวยาผู้ต้องหาในคดีอาญา

                       ที่ถูกควบคุมตัวระหว่างถูกดำาเนินคดีในชั้นพนักงานสอบสวน


                                 ผลการดำาเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
                                 สำาหรับความเห็นของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐที่มีอำานาจหน้าที่ในเรื่องนี้  สำานักเลขาธิการ

                       คณะรัฐมนตรีได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๕๐๕/๒๓๒๕๓ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ แจ้งว่า
                       รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวง

                       ยุติธรรม (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) พิจารณาร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงการพัฒนาสังคม
                       และความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำานักงาน

                       ตำารวจแห่งชาติ สำานักงานอัยการสูงสุด และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง จัดทำารายงานผลการพิจารณาหรือ
                       ผลการดำาเนินงานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วแจ้งผลการพิจารณาหรือผลการดำาเนินการ

                       เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง เมื่อคณะรัฐมนตรี
                       พิจารณาและมีมติแล้ว  สำานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้แจ้งผลการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี

                       ต่อ กสม. ทราบ
   209   210   211   212   213   214   215   216   217   218   219