Page 216 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยและรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2557
P. 216
รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และรายงานผลการปฏิบัติงานประจำาปี ๒๕๕๗ 215
๒) เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการคุ้มครองสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัวเกี่ยวกับข้อมูล
ส่วนบุคคล ตามที่รับรองไว้ในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR)
ข้อคิดเห็นร่วมอันสำาคัญของคณะกรรมการประจำากติกาดังกล่าว แนวทางการเพื่อกำาหนดระเบียบว่าด้วย
การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลทางคอมพิวเตอร์ขององค์การสหประชาชาติ แนวทางการคุ้มครองความเป็นส่วนตัว
และการไหลเวียนของข้อมูลข้ามเขตของข้อมูลส่วนบุคคลของ องค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
และการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development : OECD)
รัฐสภา และคณะรัฐมนตรี โดยสำานักนายกรัฐมนตรี (สำานักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ)
และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ควรเร่งรัดผลักดันการตราพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ระหว่างที่
ยังไม่มีกฎหมายดังกล่าวก็ควรกำาหนดแนวปฏิบัติหรือคู่มือการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไปพลางก่อน เพื่อให้
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นเอกชนมีแนวทางปฏิบัติ
๓) คณะรัฐมนตรี โดยสำานักนายกรัฐมนตรี (สำานักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของ
ราชการ) สำานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง อาจนำาแนวทางตามพระราช-
บัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ มาตรา ๓ ปรับใช้กับร่างพระราชบัญญัตินี้โดยกำาหนด
เป็นหลักการว่า วิธีคุ้มครองสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัวเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลในกฎหมายต่าง ๆ
ให้เป็นไปตามที่กำาหนดในร่างพระราชบัญญัติฯ เว้นแต่กฎหมายนั้นมีหลักเกณฑ์หรือมาตรฐานการคุ้มครอง
่
สิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัวเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ตำากว่าหลักเกณฑ์ที่กำาหนดในร่างพระราชบัญญัติฯ
๔) คณะรัฐมนตรี โดยสำานักนายกรัฐมนตรี (สำานักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของ
ราชการ) สำานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.)
และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ควรกำาหนดให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกิจการสื่อมวลชน
รวมถึงแนวทางเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลสาธารณะ บุคคลที่ควรได้รับการคุ้มครองเป็นพิเศษ
ในกิจการดังกล่าว ตลอดจนส่งเสริม สนับสนุน อำานวยความสะดวกให้สมาคมผู้ประกอบวิชาชีพเกี่ยวกับ
กิจการสื่อมวลชนทุกสาขา กำาหนดแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่สมาชิก เช่น ให้เป็น
ส่วนหนึ่งในมาตรฐานทางจริยธรรมของการประกอบวิชาชีพ เป็นต้น โดยคำานึงถึงการได้สัดส่วนกับ
วัตถุประสงค์ของกิจการสื่อมวลชน และไม่ละเมิดสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัวของผู้อื่น
๕) คณะรัฐมนตรี โดยสำานักนายกรัฐมนตรี (สำานักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของ
ราชการ) และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในการดำาเนินการบริหาร (ร่าง) พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล
ส่วนบุคคลฯ ควรกำาหนดขั้นตอนให้สามารถปฏิบัติได้จริง ชัดเจน ไม่ยุ่งยาก ป้องกันการฝ่าฝืนได้ และไม่มี
ภาระค่าใช้จ่ายโดยไม่จำาเป็น ทั้งแก่ผู้ควบคุมข้อมูลและเจ้าของข้อมูลซึ่งเป็นผู้ทรงสิทธิ
๖) คณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงสาธารณสุข (สำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ)
แพทยสภา และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ควรมีหรือใช้มาตรการเพื่อประกันว่าสถานพยาบาลของรัฐและ
ของเอกชน แพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและที่เป็นเอกชน จะเก็บรวบรวม
ใช้และเปิดเผย เก็บรักษา และแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการเกี่ยวกับการบริการ