Page 121 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยและรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2557
P. 121

120  รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และรายงานผลการปฏิบัติงานประจำาปี ๒๕๕๗









                              คือ ข้อ ๒๙ การให้อำานาจศาลโลกในการตัดสินกรณีพิพาท

                                    เนื้อหาของอนุสัญญานี้มี ๒ ส่วน ๓๐ ข้อ ส่วนแรก (ข้อ ๑-๑๖) เป็นสาระบัญญัติ
                              ว่าด้วยสิทธิต่าง ๆ ของสตรี การขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี รวมทั้งการประกันว่าสตรี

                              และบุรุษมีสิทธิที่จะได้รับการปฏิบัติและดูแลจากรัฐอย่างเสมอภาคกัน  โดยรัฐภาคี
                              มีพันธกรณีสำาคัญที่จะต้องกำาหนดมาตรการเพื่อสร้างความเท่าเทียมกันระหว่างบุรุษ

                              และสตรี ปรับรูปแบบทางสังคมและวัฒนธรรมเพื่อให้เอื้อต่อการขจัดการเลือกปฏิบัติ
                              ต่อสตรี ปราบปรามการลักลอบค้า และแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากสตรี ประกัน

                              ความเท่าเทียมกันระหว่างบุรุษและสตรีในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และการดำารงชีวิต
                              ทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศ เช่น สิทธิในการเลือกตั้ง การสนับสนุนให้ดำารง

                              ตำาแหน่งที่สำาคัญ ความเท่าเทียมกันในกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ และการศึกษา การ
                              ได้รับโอกาสในการจ้างงานที่เท่าเทียมกัน การป้องกันความรุนแรงต่อสตรีในสถานที่

                              ทำางาน ความเท่าเทียมกันในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ การประกันความเป็นอิสระ
                              ด้านการเงินและความมั่นคง ด้านสังคม และการให้ความสำาคัญแก่สตรีในชนบท

                              ความเท่าเทียมกันทางกฎหมาย โดยเฉพาะในด้านกฎหมายแพ่ง และกฎหมายครอบครัว
                              ซึ่งเป็นการประกันความเท่าเทียมกันในชีวิตส่วนบุคคล ส่วนที่ ๒ (ข้อ ๑๗-๓๐) เป็นเรื่อง

                              เกี่ยวกับการจัดตั้งและการดำาเนินงานของคณะกรรมการ การเสนอรายงาน ผลกระทบ
                              ของอนุสัญญา และการกำาหนดมาตรการที่จำาเป็น การลงนามเข้าเป็นภาคี การมีผล

                              บังคับใช้ การแก้ไข การตั้งข้อสงวน และ การระงับข้อพิพาท
                                    อนุสัญญาฯ มีพิธีสารเลือกรับ ๑ ฉบับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการรับเรื่องร้องเรียน

                              ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียและประเทศ ที่ ๕ ในโลกที่ให้สัตยาบัน
                              ต่อพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาฯ  นับเป็น ๑ ใน ๑๐ ประเทศแรกที่ทำาให้พิธีสาร

                              เลือกรับฯ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๔๓ พิธีสารเลือกรับฯ เป็นกระบวน
                              การช่วยในการคุ้มครองสิทธิสตรี โดยเปิดโอกาสให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลในประเทศ

                              ที่เป็นภาคีพิธีสารฯ เสนอข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิสตรีต่อคณะกรรมการ
                              ว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี และเปิดโอกาสให้คณะกรรมการเข้ามาไต่สวนได้

                              โดยมีเงื่อนไขว่า เรื่องดังกล่าวได้ดำาเนินการโดยกระบวนการแก้ไขการละเมิดสิทธิ
                              มนุษยชนในประเทศจนหมดสิ้นแล้ว หรือมีเหตุผลว่ากลไกในประเทศดำาเนินการล่าช้า

                              กว่าปกติ  นอกจากนั้น ยังต้องได้รับความยินยอมจากรัฐบาลของประเทศนั้นก่อนด้วย
                              อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่มีกรณีร้องเรียนของประเทศไทยไปยังคณะกรรมการว่าด้วย

                              การขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีแต่อย่างใด
   116   117   118   119   120   121   122   123   124   125   126