Page 72 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 2 ระหว่าง มกราคม - มิถุนายน 2558
P. 72

70  ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                  ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๒  ระหว่าง มกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๘


               มาชี้แจง พร้อมทั้งเรียกสำานวนการสอบสวนมาตรวจพิจารณาและให้คำาแนะนำาเร่งรัดให้ดำาเนินการให้เป็นผลดี

               และเป็นไปในทางที่ชอบและเหมาะสม

                              ถ้าผู้ว่าราชการจังหวัดเห็นว่า การดำาเนินการตามวรรคหนึ่งจะไม่ได้ผล  ผู้ว่าราชการจังหวัด
               มีอำานาจเข้าควบคุมการสอบสวน โดยสั่งให้พนักงานสอบสวนดำาเนินการตามที่เห็นสมควร รวมทั้ง การสั่ง
               อนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว หรือจะสั่งให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน หรือให้พนักงานสอบสวน

               ฝ่ายปกครองเข้าร่วมทำาการสอบสวนคดีเรื่องนั้นด้วยก็ได้  กรณีดังกล่าวนี้ให้ถือว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้า
               พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๘ วรรคท้าย และเป็น
               พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๔๐ มีอำานาจเกี่ยวกับการ

               สอบสวนความผิดอาญาในเขตอำานาจของจังหวัด  การที่จะสั่งการแก้ไขเปลี่ยนแปลงโดยอำานาจของผู้บังคับการ
               ตำารวจภูธร หรือผู้บัญชาการตำารวจภูธรให้เป็นอันงด เว้นแต่ที่เป็นอำานาจของอธิบดีกรมตำารวจ

                              ๑๒.๕  ในกรณีที่นายอำาเภอเห็นเป็นการสมควร จะให้พนักงานสอบสวนในอำาเภอมาชี้แจง
               พร้อมทั้งเรียกสำานวนการสอบสวนมาตรวจพิจารณาและให้คำาแนะนำาเร่งรัดให้ดำาเนินการให้เป็นผลดี และเป็นไป

               ในทางที่ชอบและเหมาะสม
                              ถ้านายอำาเภอเห็นว่าการดำาเนินการตามวรรคหนึ่งจะไม่ได้ผล นายอำาเภอมีอำานาจเข้าควบคุม

               การสอบสวน โดยสั่งให้พนักงานสอบสวนดำาเนินการตามที่เห็นสมควร รวมทั้งการสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้
               ปล่อยตัวชั่วคราว หรือจะสั่งให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนหรือให้พนักงานสอบสวนฝ่ายปกครองเข้าร่วมทำาการ

               สอบสวนคดีเรื่องนั้นด้วยก็ได้  กรณีดังกล่าวนี้ ให้ถือว่านายอำาเภอเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบตาม
               ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๘ วรรคท้าย และเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบตาม
               ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๔๐ มีอำานาจเกี่ยวกับการสอบสวนความผิดอาญาในเขตอำานาจ

               ของอำาเภอ  การที่จะสั่งการแก้ไขเปลี่ยนแปลงโดยอำานาจของผู้กำากับตำารวจภูธรจังหวัด ผู้บังคับการตำารวจภูธร
               หรือผู้บัญชาการตำารวจภูธรให้เป็นอันงด เว้นแต่ที่เป็นอำานาจของผู้ว่าราชการจังหวัด หรืออธิบดีกรมตำารวจ

                              ๑๒.๖  ในกรณีที่ปลัดอำาเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำากิ่งอำาเภอเห็นเป็นการสมควร จะให้พนักงาน
               สอบสวนในกิ่งอำาเภอมาชี้แจง พร้อมทั้งเรียกสำานวนการสอบสวนมาตรวจพิจารณาและให้คำาแนะนำาเร่งรัดให้
               ดำาเนินการให้เป็นผลดี และเป็นไปในทางที่ชอบและเหมาะสม

                              ถ้าปลัดอำาเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำากิ่งอำาเภอเห็นว่า การดำาเนินการตามวรรคหนึ่งจะไม่ได้ผล

               ปลัดอำาเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำากิ่งอำาเภอมีอำานาจเข้าควบคุมการสอบสวน โดยสั่งให้พนักงานสอบสวน
               ดำาเนินการตามที่เห็นสมควร  รวมทั้งการสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว หรือจะสั่งให้เปลี่ยนตัว
               พนักงานสอบสวน หรือให้พนักงานสอบสวนฝ่ายปกครองเข้าร่วมทำาการสอบสวนคดีเรื่องนั้นด้วยก็ได้  กรณี

               ดังกล่าวนี้ ให้ถือว่าปลัดอำาเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำากิ่งอำาเภอ เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ
               ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๘ วรรคท้าย และเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ

               ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๔๐ มีอำานาจเกี่ยวกับการสอบสวนความผิดอาญาในเขต
               อำานาจของกิ่งอำาเภอ  การที่จะสั่งการแก้ไขเปลี่ยนแปลงโดยอำานาจของผู้กำากับตำารวจภูธรจังหวัด ผู้บังคับการ
               ตำารวจภูธรหรือผู้บัญชาการตำารวจภูธรให้เป็นอันงดเว้นแต่ที่เป็นอำานาจของผู้ว่าราชการจังหวัด  หรืออธิบดี

               กรมตำารวจ
   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77