Page 52 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 2 ระหว่าง มกราคม - มิถุนายน 2558
P. 52

50  ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                  ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๒  ระหว่าง มกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๘


               ทางการแพทย์เฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ตามความจำาเป็นไม่เกิน ๗๒ ชั่วโมงนับตั้งแต่เวลาที่ผู้ประกันตนเข้ารับ

               บริการทางการแพทย์  โดยไม่รวมระยะเวลาในวันหยุดราชการ และโรงพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิการรักษา
               พยาบาลจะต้องรับผิดชอบการให้บริการทางการแพทย์ต่อจากโรงพยาบาลที่ผู้ประกันตนเข้ารับการรักษาพยาบาล

               ตั้งแต่เวลาที่ได้รับแจ้ง  สำาหรับค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นก่อนการแจ้งซึ่งผู้ประกันตนสำารองจ่าย สำานักงานประกัน
               สังคมจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีฉุกเฉินหรือประสบอันตรายได้




               ๕.  ความเห็นของคณะอนุกรรมการด้านเสนอแนะนโยบาย และ
                    ข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน

                    คณะอนุกรรมการด้านเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ เพื่อส่งเสริม

               และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ได้พิจารณาคำาร้อง ข้อมูล และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ได้รับ
               ผลกระทบแล้ว ได้ให้ความเห็นต่อนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินฯ ดังนี้

                     ๕.๑  เมื่อพิจารณารายละเอียดจากคำาร้องในรายงานผลการพิจารณาฯ ฉบับนี้  เห็นว่า ผู้เสียหาย

               หรือผู้ได้รับผลกระทบอยู่ในข่ายเจ็บป่วยกรณีฉุกเฉินทั้งสิ้น โดยหลักการนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินฯ เป็นนโยบาย
               ที่ดี  ปัญหาของนโยบายนี้เกิดจากเป็นนโยบายที่กำาหนดขึ้นโดยไม่มีข้อมูลที่จำาเป็นรองรับ เช่น จำานวนงบประมาณ
               ที่พอเพียงสำาหรับเป็นค่ารักษาพยาบาล ระบบบริหารจัดการรองรับที่ดีในการสร้างความเข้าใจแก่โรงพยาบาล

               เอกชน รวมถึงโรงพยาบาลที่ไม่ได้เป็นคู่สัญญากับระบบบริการสาธารณสุขใดเกี่ยวกับการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล
               อัตราการเบิกจ่าย และการส่งต่อผู้ป่วยเมื่อพ้นระยะวิกฤต  ที่ผ่านมาพบว่า เมื่อผู้ป่วยได้รับการรักษาจนพ้น
               วิกฤตแล้ว  และโรงพยาบาลเอกชนที่ให้การรักษาประสานกับโรงพยาบาลตามสิทธิเพื่อส่งต่อผู้ป่วย  ปรากฏว่า

               ไม่มีเตียงจึงเป็นภาระของผู้ป่วยในการจ่ายค่ารักษาพยาบาลและไม่อยู่ในเงื่อนไขเจ็บป่วยฉุกเฉิน

                     ๕.๒  การประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานรัฐยังไม่มีประสิทธิภาพ ในการให้ความรู้ความเข้าใจ

               แก่ประชาชนในหลักเกณฑ์นโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินฯ  ทำาให้ประชาชนหรือผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีความรู้และ
               ความเข้าใจหลักเกณฑ์การพิจารณาเกี่ยวกับเจ็บป่วยฉุกเฉินซึ่งแบ่งประเภทตามความเร่งด่วนหรือวิกฤต โดยแทน
               ด้วยสัญลักษณ์ “สี”  จึงควรประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหรือผู้ป่วยทราบบนฐานการมีข้อมูลที่ครบถ้วนหรือ

               เพียงพอ รวมทั้งมีการให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้เสียหายหรือผู้ได้รับผลกระทบเนื่องจากการใช้นโยบายนี้

                     ๕.๓  รัฐควรมีระบบการนำานโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินฯ ไปปฏิบัติ  โดยไม่เป็นภาระแก่โรงพยาบาลเอกชน

               รวมถึงโรงพยาบาลที่ไม่ได้เป็นคู่สัญญา และกำาหนดแนวทางหรือมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา เช่น โรงพยาบาล
               ไม่แจ้งสิทธิการรักษากรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินให้ผู้ป่วยหรือญาติทราบ  โรงพยาบาลให้ผู้ป่วยหรือญาติลงนามในสัญญา

               ผูกพันให้ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลก่อนการให้บริการ โรงพยาบาลคิดค่ารักษาพยาบาลในอัตราที่สูง โรงพยาบาล
               ไม่ให้ผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลจนกว่าจะได้รับค่ารักษาพยาบาลครบจำานวน เป็นต้น


                     ๕.๔  รัฐควรกำาหนดมาตรการเกี่ยวกับกองทุน ดังนี้
                           ๕.๔.๑  จัดสรรเงินกองทุนรองรับการปฏิบัติตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินฯ อย่างเพียงพอ

               โดยไม่ให้เป็นภาระของผู้ป่วย
   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57