Page 26 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 2 ระหว่าง มกราคม - มิถุนายน 2558
P. 26
24 ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๒ ระหว่าง มกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๘
ฉบับที่สำานักงานตำารวจแห่งชาติได้นำาร่างเดิมมาปรับปรุงแก้ไขขึ้นใหม่นี้ มีบทบัญญัติที่กลับเป็นการควบคุมและ
จำากัดสิทธิและเสรีภาพในการชุมนุมของประชาชนมากกว่าการคุ้มครองและอำานวยความสะดวกให้กับประชาชน
ในการชุมนุมสาธารณะ คณะอนุกรรมการฯ จึงเห็นสมควรมีข้อเสนอแนะต่อร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยใน
บางประเด็นได้เคยเสนอไปแล้ว โดยได้เสนอเป็นรายงานผลการพิจารณาของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
เรื่อง ข้อเสนอการตราพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. .... ต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๔
และคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๔ อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้มีบทบัญญัติในร่างที่เสนอโดยสำานักงาน
ตำารวจแห่งชาติที่แตกต่างจากร่างที่ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรอย่างมาก ดังนั้น เพื่อให้ร่างพระราช-
บัญญัติการชุมนุมสาธารณะฯ สอดคล้องกับหลักการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน หลักการตามรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย ข้อ ๒๐ แห่งปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และข้อ ๒๑ แห่งกติการะหว่างประเทศ
ว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง คณะอนุกรรมการด้านเสนอแนะนโยบายฯ จึงเห็นสมควรมีข้อเสนอแนะ
ต่อร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ดังนี้
๕.๑ ข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย
๕.๑.๑ ประเด็นที่ ๑ ชื่อร่างพระราชบัญญัติ
เนื่องจากหลักการและเหตุผลของกฎหมายดังกล่าว เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของ
ประชาชน ให้ประชาชนมีบทบาทและมีส่วนร่วมในการปกครอง ตรวจสอบการใช้อำานาจรัฐอย่างเป็นรูปธรรม
ตลอดจนคุ้มครองไม่ให้เกิดการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญ หรือไม่
ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน และการจำากัดเสรีภาพในการชุมนุม จะกระทำาได้โดยอาศัยอำานาจตามบทบัญญัติ
แห่งกฎหมาย โดยหน่วยงานของรัฐต้องเข้ารักษาความปลอดภัยและอำานวยความสะดวกแก่ผู้ชุมนุมโดยเคร่งครัด
รอบคอบและทันเหตุการณ์ฯ ดังนั้น ชื่อของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวควรเปลี่ยนเป็นร่างพระราชบัญญัติส่งเสริม
และคุ้มครองเสรีภาพในการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. .... เพื่อให้มีความสอดคล้องกับหลักการและเหตุผลของกฎหมาย
๕.๑.๒ ประเด็นที่ ๒ คำานิยาม
๑) กฎหมายที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ย่อมมีผลบังคับเป็นการทั่วไป บุคคล
ไม่อาจอ้างความไม่รู้กฎหมาย มาเป็นข้ออ้างปฏิเสธความรับผิดทางกฎหมาย ดังนั้น กฎหมายที่ตราขึ้นจึงไม่ควร
มีความซับซ้อน ควรหลีกเลี่ยงการบัญญัติคำานิยามซ้อนคำานิยาม เช่น “การชุมนุมสาธารณะ” หมายความว่า
การรวมตัวกันของบุคคลในที่สาธารณะฯ และนำาเอาคำาว่า “ที่สาธารณะ” มากำาหนดนิยามว่าหมายถึง ทางหลวง
และทางสาธารณะ และนำาเอาคำาว่า “ทางหลวง” และ “ทางสาธารณะ” มากำาหนดนิยามว่า “ทางหลวง”
้
หมายถึง ทางหลวงตามกฎหมายว่าด้วยทางหลวง และ “ทางสาธารณะ” หมายถึง ทางบกหรือทางนำาสำาหรับ
ประชาชนใช้ในการจราจร
๒) “ผู้จัดการชุมนุม” ควรหมายถึง ผู้ริเริ่มจัดให้มีการชุมนุมสาธารณะเท่านั้น ไม่ควร
ครอบคลุมถึงผู้เชิญชวนหรือผู้นัดหมายให้ผู้อื่นมาร่วมชุมนุม เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้กำาหนดให้
“ผู้จัดการชุมนุม” มีหน้าที่และความรับผิดในหลายมาตรา จึงไม่ควรรวมบุคคลที่เป็นเพียงผู้สนับสนุนช่วยเหลือ
ผู้ริเริ่มจัดให้มีการชุมนุม ผู้ขออนุญาตใช้สถานที่หรือเครื่องขยายเสียงหรือขอให้ทางราชการอำานวยความสะดวก
ในการชุมนุมเป็นผู้จัดการชุมนุมด้วย