Page 86 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 86
สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
National Human Rights Commission of Thailand
พื้นที่ของรัฐ โดยมีหลายกรณีที่รองเรียนวาเจาหนาที่รัฐใชอํานาจกระทําเกินกวาเหตุในการจับกุมหรือผลักดัน
ชาวบานออกนอกพื้นที่และทําใหเกิดการทํารายรางกายและทําลายทรัพยสินของชาวบาน เชน กรณีหนวยปองกัน
รักษาปาใชอํานาจและกําลังเขาจับกุมชาวบานในพื้นที่อุทยานแหงชาตินํ้าหนาว จ.เพชรบูรณ หรือกรณีเจาหนาที่
อุทยานแหงชาติหาดนพรัตนธารา - หมูเกาะพีพี เขาทําลายและรื้อถอนผลอาสินของชาวบานในพื้นที่ ต.หนองทะเล
อ.เมือง จ.กระบี่ เปนตน
ในขณะเดียวกันก็มีการใชอํานาจรัฐอนุญาตใหหนวยงานรัฐหรือเอกชนเขาไปดําเนินโครงการในพื้นที่
ที่ชุมชนใชประโยชนของชุมชน เชน กรณีการออกเอกสารสิทธิในบริเวณปาพรุ ต.แมรําพึง อ.บางสะพาน
จ.ประจวบคีรีขันธ เพื่อกอสรางโรงงานถลุงเหล็ก หรือกรณีการอนุญาตใชที่ปาที่เปนที่ทํากินของราษฎรทําสวนปา
คอนสาร สวนปาโคกยาว อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ สวนปาหวยจันทร จ.ศรีสะเกษ สวนปาคลองทอม จ.กระบี่
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมรายงานขอมูลถึงเดือนเมษายน 2551 สรุปคดีในเขตปา ป 2550
จํานวน 6,711 คดี ป 2551 จํานวน 2,625 คดี โดยเฉพาะคดีในศาลอุทธรณภาค 5 (ครอบคลุมจังหวัดในภาคเหนือ
ตอนบน) ในป พ.ศ. 2548 จํานวนคดีฟองบุกรุกปาสงวนแหงชาติ 981 คดี จํานวนคดีบุกรุกเขตอุทยานแหงชาติ
91 คดี พ.ศ. 2550 จํานวนคดีฟองบุกรุกปาสงวนแหงชาติ 1,144 คดี จํานวนคดีบุกรุกเขตอุทยานแหงชาติ 103 คดี
การจับกุมฟองรองคดีบุกรุกปา ทั้งปาสงวนแหงชาติและปาอนุรักษกับชาวบานมากกวา 1,000 คดี
ชาวบานที่ถูกจับกุมฟองรองดําเนินคดีแตละปมีจํานวนกวา 1,000 คน และหากมีการจับกุมฟองรองดําเนินคดีกับ
ราษฎรที่อยูในเขตปาทุกราย ตามขอมูลที่หนวยงานดานปาไมรายงานใหกับคณะกรรมาธิการชุดตาง ๆ ของรัฐสภา
มีราษฎรอยูในเขตปาสงวน 450,000 ราย อุทยานแหงชาติและเขตรักษาพันธุสัตวปา 185,916 ราย หากเจาหนาที่
รัฐปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายที่มีอยูอยางเครงครัดโดยไมเลือกปฏิบัติ ราษฎรที่จะตองถูกจับกุมดําเนินคดีในคดี
ปาไมทั้งหมดคงไมนอยกวา 600,000 ราย การบังคับใชกฎหมายที่เกาแกลาสมัยและสงผลใหราษฎรที่ครอบครองที่ดิน
ประกอบอาชีพการเกษตรโดยสุจริตกลายเปนผูกระทําผิดกฎหมายนับแสนรายมานานนับครึ่งศตวรรษโดยไมอาจหา
วิธีการแกไขได นอกจากเลือกปฏิบัติจับกุมเปนราย ๆ ไป จึงสะทอนถึงการบริหารจัดการที่ดินปาไมที่ผิดทิศผิดทาง
เพราะไมสอดคลองกับบริบทของสังคมและความเปนจริงในปจจุบันจนสงผลกระทบตอความมั่นคงของชาติ
ทําใหเศรษฐกิจและสังคมฐานรากไมมั่นคง งานวิจัยหลายชิ้นไดเสนอทางออกไวให ทั้งเรื่องการจัดทําแนวเขตปา
ใหชัดเจน การตรวจสอบพิสูจนสิทธิ์การถือครองที่ดินในเขตปาใหแลวเสร็จโดยเร็ว รวมทั้งการเพิกถอนเขตปา
ที่ประกาศทับที่ดินราษฎรและชุมชน แตขอเสนอเหลานี้ไมไดรับการพิจารณาจัดการแกไขอยางจริงจังและตอเนื่อง
ทําใหไมสามารถแยกแยะออกไดวาใครบาง คือ ผูบุกรุกทําลายปาและจะจัดการแกไขอยางไร ใครบางที่ถูกรัฐละเมิด
สิทธิที่ดินที่เขาอยูมากอนการประกาศเขตปา และจะมีวิธีการจัดการแกไขอยางไร ปจจุบันการบริหารจัดการพื้นที่
ปาจึงเปนไปตามนโยบายฝายการเมืองและผูบริหารระดับสูงของหนวยงานรัฐโดยขาดหลักธรรมาภิบาลและ
หลักบริหารจัดการกิจการบานเมืองที่ดี เพราะขาดการปรึกษาหารือกับทองถิ่นและประชาชนผูไดรับผลกระทบ
การละเมิดสิทธิมนุษยชนของราษฎรและชุมชนในเขตพื้นที่ปาไมที่มีอยูจึงยังแกปญหาไมได และที่กําลังจะเกิดขึ้น
อีกตอไปก็ยังไมมีวิธีจัดการแกไข
รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข 65
นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”