Page 506 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 506

สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
                                                                                               National Human Rights Commission of Thailand


                        “จังหวัดกาญจนบุรี : ที่ดินพิพาทมีหลักฐานใบเสียภาษีบํารุงทองที่และหนังสือรับรองการทําประโยชน
               เทศบาลตําบลเจรจากับผูรองและพวกวา จะขอขุดลอกรองนํ้าเล็ก ๆ เพื่อระบายนํ้าทวมโดยไมแจงรายละเอียดใด

               ของโครงการและไมนัดผูรองและพวกใหทราบ เทศบาลดําเนินการโดยไมมีหนังสือชี้แจงและไมไดรับความยินยอม
               เปนหนังสือจากผูรองและพวก กรมที่ดินสงเจาหนาที่เดินสํารวจเพื่อออกโฉนดที่พิพาท แตเนื่องจากเทศบาล

               ขุดลอกลํารางผานกลางที่ดินทําใหที่ดินถูกแบงออกเปนสองโฉนด เสียเนื้อที่ประมาณ 1 ไร ปจจุบันลําราง
               แหงตลอดป ยกเวนหนาฝนจึงจะมีนํ้าขังบาง

                        เทศบาลตําบลตรวจสอบพบ เปนการประสานขอและอนุญาตดวยวาจา เรื่องการออกโฉนดที่ดิน
               จะประสานเจาหนาที่ที่ดินแจงวาสามารถออกโฉนดเปนสองแปลงแตตองเวนพื้นที่คลองระบายนํ้าเพราะเปนพื้นที่

               สาธารณะซึ่งเทศบาลตําบลวางแผนปรับปรุงเพิ่มสาธารณูปโภคบริเวณคลองระบายนํ้า กอสรางถนนและไฟฟา
               สาธารณประโยชน ปรับปรุงภูมิทัศนใหราษฎรทั่วไปไดรับประโยชน สํานักงานที่ดินจังหวัด สงเรื่องให

               ศูนยอํานวยการเดินสํารวจออกโฉนดที่ดินและเทศบาลตําบลตรวจสอบ กรณีการเดินออกสํารวจโฉนดที่ดิน
               ในที่พิพาทอยูระหวางจัดสายสํารวจเขาดําเนินการรังวัดปกเขตโดยประสานเทศบาลตําบลใหตรวจสอบลําราง

               ระบายนํ้าวามีลักษณะเปนลํารางสาธารณประโยชนหรือไม เพื่อจะไดดําเนินการพิจารณาออกโฉนด”
                        “จังหวัดอํานาจเจริญ : ที่ดินมีการครอบครองทําประโยชน เนื้อที่ประมาณ 7 ไรเศษ ตั้งหางจาก

               โรงเรียน 200 เมตรเศษ
                        พ.ศ. 2516 โรงเรียนขอแลกเปลี่ยนที่ดินกับผูรองเพื่อกอสรางโรงเรียนแหงใหมเพราะที่ตั้งเดิม

               ประสบปญหานํ้าทวมเปนประจําทุกปและการเดินทางไปมาไมสะดวก คณะกรรมการหมูบานเห็นชอบการแลกเปลี่ยน
               ครั้งนี้ ผูรองและพวกตกลงยินยอมและเขาทํากินในที่ดินโรงเรียนเดิม โรงเรียนยายมาตั้งบริเวณที่ดินผูรอง

                        พ.ศ. 2519 ผูรองและพวกยื่นคําขอออกเอกสารสิทธิในที่ดินโรงเรียนเดิมเปนหนังสือรับรอง
               การทําประโยชน น.ส.3 ก เลขที่ 1338 เนื้อที่ 7 - 2 - 07 ไร ออกใหเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2519

                        พ.ศ. 2520  ทางราชการออกหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวงในที่ดินโรงเรียนเดิมเลขที่ 6339
               เนื้อที่ 11 - 2 - 26 ไร ในความดูแลของกระทรวงการคลัง ทับซอนที่ น.ส. 3 ก ของตน

                        พ.ศ. 2545 คณะกรรมการโรงเรียนมีมติจะเอาที่ดินที่เคยตกลงแลกเปลี่ยนคืน
                        พฤษภาคม พ.ศ. 2548 ผูอํานวยการโรงเรียนเขายึดที่ตั้งโรงเรียนเดิม

                        สํานักงานที่ดินจังหวัดเห็นวา การแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นใน พ.ศ. 2516 ไมดําเนินการใหถูกตองตามกฎหมาย
               คือ ไมไดออกเปนพระราชบัญญัติเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินอันเปนสาธารณสมบัติของแผนดิน ตามมาตรา 8

               แหงประมวลกฎหมายที่ดิน และไมไดตราพระราชกฤษฎีกาประกาศใหถอนสภาพการเปนสาธารณสมบัติ
               ของแผนดินตามมาตรา 9 ของกฎหมายฉบับเดียวกัน ที่ดินดังกลาวจึงยังเปนที่ดินสาธารณสมบัติของแผนดิน

               และตองหามโอน หามยึดและยกอายุความขึ้นตอสูแผนดิน การออกหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวงจึงเปนการออก
               โดยชอบ การออกหนังสือรับรองการทําประโยชนของผูรองเปนการออกเอกสารทับซอนที่ดินแปลงเดียวกัน

               เห็นควรพิจารณาดําเนินการเพิกถอน น.ส.3 ก ของผูรอง”






                                                                       รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข  485
                                                                นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”
   501   502   503   504   505   506   507   508   509   510   511