Page 511 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 511

สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
                National Human Rights Commission of Thailand

                8.4 วิเคราะหนโยบายกฎหมายที่เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิ

                         การถือครองที่ดินของเอกชน เปนการถือครองตามสิทธิที่ไดรับอนุญาตจากอํานาจสูงสุด เริ่มจาก

                อํานาจพระมหากษัตริยในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย และอํานาจกฎหมายภายหลังเปลี่ยนการปกครอง
                เปนระบอบประชาธิปไตย ลักษณะการถือครองที่ดินเริ่มดวยการอาศัยผืนดินเปนถิ่นที่อยู ความกาวหนาของ

                ระบบการคาการเงินทําใหที่ดินและสิทธิในที่ดินมีราคาและถือเอาได ปริมาณที่ดินมีไมเพียงพอตอความตองการ
                ผูมีอํานาจและกําลังซื้อเทานั้นที่สามารถถือครองที่ดินไดจริง

                         จากการศึกษารายงานการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนเรื่องที่ดินเอกชนเฉพาะกรณี
                คณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาตรวจสอบและออกมาตรการแกไขปญหา พ.ศ. 2549 - 2555

                         พบวาปญหาที่ทําใหเกิดการละเมิดสิทธิ
                         1.  ภูมิรูของผูเกี่ยวของ

                         ภูมิรูของผูเกี่ยวของทั้งประชาชนและผูมีอํานาจตามกฎหมายบัญญัติมีที่มาของความรูทาง
                ทรัพยากรธรรมชาติในทองถิ่นตางกัน บนฐานความไมสามารถรูทั่วถึงกัน ประชาชนทองถิ่นเรียนรูการมีอยู

                และสิ้นสลายของทรัพยากรธรรมชาติจากประสบการณตรง ดูแล รักษา ดวยวิธีการทางธรรมชาติ สืบทอด
                มาแตครั้งบรรพบุรุษ ประชาชนตางพื้นที่ที่สามารถเขาสืบสิทธิการถือครองมีภูมิรูสามารถตามหนังสือสําคัญ

                แสดงสิทธิในที่ดิน ผูมีอํานาจหนาที่ตามกฎหมายเรียนรูการมีอยูและสิ้นสลายของทรัพยากรธรรมชาติจาก
                ตําราวิชาการ จากการบอกเลาของบุคคลอื่น จากการคนควาหาความรูจากสื่อเทคโนโลยี จากการลงพื้นที่

                จากสิ่งที่ปรากฏและสิ่งที่บุคคลอื่นทําใหปรากฏฯ ปฏิบัติราชการตามนโยบายและระเบียบการบริหารราชการแผนดิน
                ผลัดเปลี่ยนตําแหนง โยกยายพื้นที่ ตามวาระปฏิบัติ

                         พยานหลักฐานเปนสิ่งที่ใชพิสูจนและยืนยันขอเท็จจริงถึงความเปนเจาของหรือผูมีสิทธิครอบครอง
                ทําประโยชนเพื่อคลายปญหาตามสภาพภูมิรู ทางปฏิบัติการพิสูจนและยืนยันขอเท็จจริงกระทําไดยาก เนื่องจาก

                มีขอเท็จจริงหลายชุด ขอเท็จจริงที่ยังมีขอถกเถียง ยังไมเปนที่ยุติ ขอเท็จจริงที่ขัดแยง ไมสอดคลองกับความเปนจริง
                ความทับซอน คลาดเคลื่อน ของพยานเอกสาร เชน การทําแผนที่ในหนังสือสําคัญแสดงสิทธิในที่ดินโดยมิตอง

                ทําการรังวัดฯ การสรางขั้นตอนและเงื่อนไขการพิสูจนถูกผิด การรับฟง การชั่งนํ้าหนัก การใหเหตุผลทางพยาน
                หลักฐานของทางราชการ ความไมถูกตอง ความขัดแยง และภูมิความรูของตัวพยานหลักฐาน ทําใหเกิดพยาน

                หลักฐานทางราชการหลายชุดหลายฝายอางสิทธิแหงตน เกิดการซอนทับสิทธิในที่ดินอื่นของประชาชน การใช
                เทคโนโลยีพิสูจนความถูกผิดไมสามารถกระทําไดโดยสะดวก เนื่องจากงบประมาณมีจํากัด เกิดความลาชา

                ในกระบวนการพิสูจน ความเชี่ยวชาญและความเทาทันในการพิสูจนพยานหลักฐานจํากัดความสามารถ
                เฉพาะตัวบุคคล ไมเพียงพอตอพยานหลักฐานทั้งกระบวนการ เกิดขอเท็จจริงที่ปราศจากพยานหลักฐานรองรับ

                ทางราชการนําใชอางอิง











         490     รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข
                 นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”
   506   507   508   509   510   511   512   513   514   515   516