Page 503 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 503
สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
National Human Rights Commission of Thailand
ที่ดิน 132 เทาที่ทราบเปนที่ตั้งวัดกลาง บางสวนใหชาวบานเชาทําประโยชน แตไมทราบวามีการออกโฉนดที่ดิน
แลวหรือไม นายชางรังวัดบันทึกถอยคําวา “เปนที่วัดราง”
เจาพนักงานที่ดินจังหวัดเรียกผูรองมาชี้ตําแหนงที่พิพาท ผูรองนําชี้ตําแหนงที่ดินตรงกับเลขที่ดิน 132
ผูรองคัดคานการขอออกโฉนดที่ดินของวัดกลางไมไดเนื่องจากพนกําหนดเวลา เจาพนักงานฯ จึงแนะนําใหผูรอง
ยื่นคําขอรังวัดออกโฉนดที่ดินตาม ส.ค. 1 เลขที่ 12 ซึ่งหากวัดกลางคัดคานก็จะเขาสูกระบวนการสอบสวน
เปรียบเทียบสิทธิในที่ดิน
เมษายน 2548 ผูรองยื่นคําขอรังวัดไดเนื้อที่ 1 - 2 - 71 ไร มากกวาหลักฐานเดิม 0 - 1 - 38 ไร
เจาของที่ดินขางเคียงไมรับรองแนวเขต เจาหนาที่ศาสนสมบัติคัดคานอางรังวัดทับที่วัด กํานันรวมระวังชี้แนวเขต
ไมสามารถชี้แนวเขตไดเนื่องจากเชื่อวาที่พิพาทอยูในที่ของวัด สํานักงานที่ดินจังหวัดสอบสวนเปรียบเทียบสิทธิ
ในที่ดินใหสํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเปนผูไดสิทธิในที่พิพาท ”
“มหาวิทยาลัยแมฟาหลวง จังหวัดเชียงราย : ผูรองที่ 1 มีที่ดินพิพาท 2 แปลง อยูในพื้นที่
เตรียมความพรอมกอสรางมหาวิทยาลัยแมฟาหลวง ถูกมหาวิทยาลัยฯ เวนคืนไมไดรับคาชดเชย แปลงที่ 1
มีรั้วลอมตั้งอยูดานหนามหาวิทยาลัยฯ เนื้อที่ 25 ไร แปลงที่ 2 มีสัญญาซื้อขายโดยกํานันและผูชวยผูใหญบาน
รวบรวมมาขายใหตั้งอยูดานหลังมหาวิทยาลัยฯ เนื้อที่ 700 ไร เพื่อปลูกยางพารา ผูรองที่ 2 มีที่ดินไมมีเอกสารสิทธิ
ครอบครองทําประโยชนตอจากบิดา เนื้อที่ 6 ไรอยูดานหลังมหาวิทยาลัย เคยแจงองคการบริหารสวนตําบลวา
ตนมีที่ดินอยูในเขตมหาวิทยาลัยฯ แตองคการบริหารสวนตําบลแจงวาหากที่ดินไมมีเอกสารสิทธิจะไมไดคาเวนคืน
จึงไมไดไปแจงคณะกรรมการฯ
ผูรองที่ 1 ติดตออําเภอ เรื่องเงียบ นิติกร มหาวิทยาลัยฯ แจงวาถารังวัดแลวมีที่ดินอยูจริง
ทางมหาวิทยาลัยจะจายเงินชดเชยคาที่ดินให
20 มกราคม พ.ศ. 2548 ผูรองที่ 1 ไดรับคําตอบจากนิติกร มหาวิทยาลัยฯ วา คณะกรรมการมีมติไมจาย
เงินคาชดเชยโดยไมแจงเหตุผลใหทราบ จากนั้น มีใบขอบคุณจากทางมหาวิทยาลัยฯ สงมาที่บานผูรองที่ 1 วา
ขอบคุณที่บริจาคที่ดินใหมหาวิทยาลัยฯ ทราบเหตุผลภายหลังที่ดินแปลงที่ 1 ไมเคยปรากฏวาผูรองที่ 1
เปนผูครอบครองหรือไมมีใครเปนผูครอบครอง ไมมีพยานเอกสารมีเพียงแตพยานบุคคล ที่ดินแปลงที่ 2
เปนที่เนินเขาไมไดทําประโยชน คาชดเชยจายเฉพาะที่นาที่ไมมีเอกสารสิทธิ ที่ไรและที่สวนไมจาย
21 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 เจาหนาที่มหาวิทยาลัยฯ ตรวจสอบสภาพที่ดินรวมกับพี่ชายผูรองที่ 2
ปรากฏพื้นที่ดังกลาวมีเนื้อที่ประมาณ 8 ไร ไมมีเอกสารสิทธิ ปจจุบันเปนที่ดินของมหาวิทยาลัยฯ และที่สวน
ไมมีเอกสารสิทธิไมจาย
จังหวัดไมสามารถพิจารณาทบทวนกฎเกณฑการจายคาเวนคืน จังหวัดไมสามารถจายคาเวนคืนใหได
เพราะเปนไปตามมติคณะกรรมการพิจารณาการจายคาชดเชยที่ดินใหราษฎรซึ่งมีมติสอดคลองกับคณะทํางาน
เตรียมความพรอมดานที่ดินสําหรับจัดตั้งมหาวิทยาลัยฯ”
482 รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข
นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”