Page 39 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 39
สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
National Human Rights Commission of Thailand
ของมนุษย ทั้งการใชที่ดินในปจจุบัน หรืออนาคต เพื่อการเกษตร อุตสาหกรรมปาไมโดยมนุษยจะทําการ
เปลี่ยนแปลงพื้นที่เพื่อการใชประโยชนที่ดินประเภทตาง ๆ เพื่อใหการใชประโยชนจากพื้นที่ดินที่มีอยูนั้นใหเกิด
ประโยชนมากที่สุด เกิดผลตอบแทนมากที่สุด อยางไรก็ดี ที่ดินเปนทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยูอยางจํากัด
มนุษยจึงตองเรียนรูวิธีการอนุรักษเพื่อใหทรัพยากรที่ดินมีใชไดยาวนานที่สุด การใชที่ดินในระยะแรกนั้นมนุษยไมได
คํานึงถึงขอจํากัดใด ๆ เกี่ยวกับดินและที่ดินจึงสงผลใหเกิดการทําลายดินและที่ดินอยางรุนแรงและเกิดผลกระทบ
จากการใชที่ดินซึ่งสอดคลองกับแนวความคิดของเอิบ (2525 อางจาก สิรีภัทร ขาวมีชื่อ, 2546) ที่อธิบายวา
เปนความจําเปนอยางยิ่งที่จะตองรูถึงธรรมชาติของดินและที่ดินแตละประเภทกอนที่จะเริ่มใชประโยชน
เพราะถาใชผิดไปแลวจะเปลี่ยนแปลงใหดีเหมือนเดิมยากและจะตองลงทุนสูงมาก
เราสามารถจําแนกที่ดินออกเปนประเภทตาง ๆ ไดมากมาย โดยมีการศึกษาคนควาวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้
เปนจํานวนมากแตไมมีระบบการจัดการที่แนนอน ซึ่งคลาย ๆ กับธรรมชาติที่ไมมีความแนนอนเชนกันและสามารถ
เปลี่ยนแปลงไดเสมอ ซึ่งระบบการจัดประเภทของการใชที่ดินสามารถอธิบายและบงบอกถึงความสําเร็จของการใช
พื้นที่ในบริเวณตาง ๆ ที่ผานมา เชน อเมริกา เปอโตริโก และหลาย ๆ บริเวณในทวีปยุโรป ขอบขายของโครงราง
สามารถอธิบายโดยใชลักษณะทางธรณีวิทยาซึ่งจะแสดงการแบงชั้นของพื้นดินในแตละบริเวณนั้น ๆ ตามขอมูล
ที่ไดสะสมไวเปนเวลานานจะชวยใหแผนภาพประกอบขอมูลดูชัดเจนและละเอียดมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ นักวิจัย
จะตองทําการศึกษาเกี่ยวกับสภาพแวดลอมประกอบดวย เพื่อที่จะทําใหการจัดประเภทการใชที่ดินทําไดงายยิ่งขึ้น
โดยการใชที่ดินของประเทศไทยแบงออกเปน 5 ประเภท คือ
1. เมืองและสิ่งกอสราง (urban and built - up land) ไดแก ที่อยูอาศัย ยานการคา ยานอุตสาหกรรม
คมนาคม และสถานที่ราชการอื่น ๆ
2. พื้นที่เกษตรกรรม (agricultural land) ไดแก พื้นที่ปลูกพืชลมลุกและพืชถาวร เชน สวนผัก
สวนผลไม พืชไร นาขาว ทุงปศุสัตว และไรหมุนเวียน
3. ปาไม (forest land) ไดแก พื้นที่ปาไมทั่วไปและจัดแยกยอยไปตามประเภทของปา เชน ปาเต็งรัง
ปาเบญจพรรณ ปาดิบแลง ปาดิบเขา ปาดิบชื้น ปาชายเลน ทุงหญาธรรมชาติ และสวนปา เปนตน
4. แหลงนํ้า (water sources) ไดแก พื้นที่แมนํ้า ลําธาร หนอง คลอง บึง ทะเลสาบ และแหลงกักเก็บ
นํ้าที่สรางขึ้น
5. พื้นที่วางเปลา (abandon land) ไดแก พื้นที่ปราศจากสิ่งปกคลุมรวมถึงไรราง (สถิตย, 2525)
ความตองการใชที่ดินขึ้นอยูกับความเหมาะสมเพื่อตอบสนองประโยชนสูงสุดของผูใชจากการที่มี
การใชปจจัยการผลิตทางการเกษตรในระดับสูงโดยเฉพาะการใชพันธุพืชใหม ๆ การปรับปรุงระบบการปลูกพืช
ใหเปนแบบรวมหลายชนิดหรือแบบหมุนเวียนมีผลทําใหดินเสื่อมโทรม นอกจากนี้ ยังมีการใชที่ดินผิดประเภท
ไมเหมาะสมแตการบังคับใหเจาของที่ดินหรือราษฎรใชประโยชนที่ดินใหเหมาะสมกับสมรรถนะที่ดินทําไดยาก
อยางไรก็ตาม ที่ดินเปนทรัพยากรที่มีอยูอยางจํากัดจึงควรใชใหเกิดประโยชนสูงสุดไปจนถึงคนในรุนตอ ๆ ไป
(สมเจตน จันทวัฒน, 2524)
18 รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข
นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”