Page 368 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 368

สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
                                                                                               National Human Rights Commission of Thailand

                        (2)  ถาในเขตปฏิรูปที่ดินนั้น มีที่ดินอันเปนสาธารณสมบัติของแผนดินสําหรับใชเพื่อประโยชน

               ของแผนดินโดยเฉพาะ ใหพระราชกฤษฎีกากําหนดเขตปฏิรูปที่ดินนั้นมีผลเปนการถอนสภาพการเปนสาธารณสมบัติ

               ของแผนดินดังกลาวโดยมิตองดําเนินการถอนสภาพตามประมวลกฎหมายที่ดิน และให ส.ป.ก. มีอํานาจนําที่ดินนั้น

               มาใชในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมไดในกรณีที่ทางราชการยังตองใชที่ดินตอนใดเพื่อประโยชนของแผนดิน
               โดยเฉพาะตอไปใหคณะกรรมการจัดที่ดินเพื่อใชตามความจําเปน โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา

                        (3)  ถาในเขตปฏิรูปที่ดินนั้นมีที่ดินอันเปนสาธารณสมบัติของแผนดินซึ่งเปนที่ดินรกรางวางเปลา

               หรือที่ดินซึ่งมีผูเวนคืนหรือทอดทิ้งหรือกลับมาเปนของแผนดินโดยประการอื่นตามประมวลกฎหมายที่ดิน

               และที่ดินนั้นอยูนอกเขตปาสงวนแหงชาติหรือเขตที่ดินที่ไดจําแนกใหเปนเขตปาไมถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี
               ให ส.ป.ก. มีอํานาจนําที่ดินนั้นมาใชในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได”

                        บทบัญญัติแหงพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2532 กําหนดใหใช

               ความแทนวา

                        “มาตรา 26 เมื่อไดมีพระราชกฤษฎีกากําหดเขตปฏิรูปที่ดินใชบังคับในทองที่ใดแลว
                        (1)  ถาในเขตปฏิรูปที่ดินนั้นมีที่ดินอันเปนสาธารณสมบัติของแผนดินสําหรับพลเมืองใชรวมกัน

               แตพลเมืองเลิกใชประโยชนในที่ดินนั้น หรือไดเปลี่ยนสภาพจากการเปนที่ดินสําหรับพลเมืองใชรวมกันก็ดี

               หรือพลเมืองยังใชประโยชนในที่ดินนั้นอยู หรือยังไมเปลี่ยนสภาพจากการเปนที่ดินสําหรับพลเมืองใชรวมกัน

               เมื่อไดจัดที่ดินแปลงอื่นใหพลเมืองใชรวมกันแทนโดยคณะกรรมการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแลวก็ดี
               ใหพระราชกฤษฎีกากําหนดเขตปฏิรูปที่ดินนั้นมีผลเปนการถอนสภาพการเปนสาธารณสมบัติของแผนดิน

               สําหรับที่ดินดังกลาว โดยมิตองดําเนินการถอนสภาพตามประมวลกฎหมายที่ดิน และให ส.ป.ก. มีอํานาจ

               นําที่ดินนั้นมาใชในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได

                        (2)  ถาในเขตปฏิรูปที่ดินนั้นมีที่ดินอันเปนสาธารณสมบัติของแผนดินสําหรับใชเพื่อประโยชน
               ของแผนดินโดยเฉพาะ หรือที่ดินที่ไดสงวนหรือหวงหามไวตามความตองการของทางราชการ เมื่อกระทรวงการคลัง

               ไดใหความยินยอมแลว ใหพระราชกฤษฎีกากําหนดเขตปฏิรูปที่ดินนั้นมีผลเปนการถอนสภาพการเปนสาธารณสมบัติ

               ของแผนดินสําหรับที่ดินดังกลาว โดยมิตองดําเนินการถอนสภาพตามกฎหมายวาดวยที่ราชพัสดุ และให ส.ป.ก.

               มีอํานาจนําที่ดินนั้นมาใชในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได
                        (3)  ถาในเขตปฏิรูปที่ดินนั้นมีที่ดินอันเปนสาธารณสมบัติของแผนดินซึ่งเปนที่ดินรกรางวางเปลา

               หรือที่ดินซึ่งมีผูเวนคืนหรือทอดทิ้ง หรือกลับมาเปนของแผนดินโดยประการอื่นตามกฎหมายที่ดิน และที่ดินนั้นอยู

               นอกเขตปาไมถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ให ส.ป.ก. มีอํานาจนําที่ดินนั้นมาใชในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได

                        (4)  ถาเปนที่ดินในเขตปาสงวนแหงชาติ เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติใหดําเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
               ในที่ดินเขตปาสงวนแหงชาติสวนใดแลว เมื่อ ส.ป.ก. จะนําที่ดินแปลงใดในสวนนั้นไปดําเนินการปฏิรูปที่ดิน





                                                                       รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข  347
                                                                นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”
   363   364   365   366   367   368   369   370   371   372   373