Page 363 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 363

สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
                National Human Rights Commission of Thailand

                ในการประกาศใชพระราชบัญญัติดังกลาว คือ เนื่องจากพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518

                ยังมีบทบัญญัติไมรัดกุมและเหมาะสม ทําใหเปนอุปสรรคตอการดําเนินการปฏิรูปที่ดินอยูหลายประการ

                และมีบางประการ ไดแก เรื่องการออกพันธบัตร การชําระราคาหรือคาทดแทนที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย

                สมควรแกไขเพิ่มเติมเสียใหมโดยรีบดวน เพื่อใหการปฏิบัติตามกฎหมายเกิดความคลองตัวและสนองนโยบาย
                การปฏิรูปที่ดินของรัฐบาลไดรวดเร็วยิ่งขึ้น จึงมีการแกไขเพิ่มเติมระราชบัญญัติปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

                พ.ศ. 2518 ใน 2 มาตรา ดังนี้

                         บทบัญญัติแหงพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2519 ตามมาตรา 3

                ใหยกเลิกความในมาตรา 5 แหงพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 บัญญัติวา
                         “มาตรา 5 ใหรัฐมนตรีวาการกระทรวงเกษตรและสหกรณ และรัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย

                รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และใหมีอํานาจแตงตั้งพนักงานเจาหนาที่กับออกกฎกระทรวงเพื่อปฏิบัติการ

                ตามพระราชบัญญัตินี้

                         กฎกระทรวงนั้น เมื่อไดประกาศในราชกิจจานุเบกษาแลวใหใชบังคับได”
                         บทบัญญัติแหงพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2519 กําหนดใหใช

                ความแทนวา

                         “มาตรา 5 ใหรัฐมนตรีวาการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีวาการกระทรวงเกษตรและสหกรณ

                และรัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และใหมีอํานาจแตงตั้งพนักงาน
                เจาหนาที่กับออกกฎกระทรวงเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ในสวนที่เกี่ยวกับอํานาจหนาที่ของแตละกระทรวง

                         กฎกระทรวงนั้น เมื่อไดประกาศในราชกิจจานุเบกษาแลวใหใชบังคับได”

                         บทบัญญัติแหงพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2519 ตามมาตรา 4

                ใหยกเลิกความในมาตรา 35 แหงพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 บัญญัติวา
                         “มาตรา 35 การชําระเงินคาทดแทนใหแกเจาของที่ดินหรืออสังหาริมทรัพยที่ตองเวนคืนเพื่อการปฏิรูป

                ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ใหจายเปนเงินรอยละยี่สิบหาของเงินคาทดแทนทั้งหมด สวนที่เหลือใหจายเปนพันธบัตร

                ของรัฐบาลมีอัตราดอกเบี้ยไมตํ่ากวารอยละแปดตอป มีระยะเวลาไถถอนคืนภายในสิบป และเงื่อนไขเกี่ยวกับ

                การจายเงินใหเปนไปตามที่กําหนดในกฎกระทรวง
                         ในกรณีที่ที่ดินซึ่งจะตองเวนคืนมีเนื้อที่ไมเกินยี่สิบหาไร และเจาของที่ดินนั้นไมมีที่ดินอื่น ไมวา

                ในหรือนอกเขตปฏิรูปที่ดิน ใหชําระเงินทั้งหมดในวันที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น แตทั้งนี้ ไมเกินจํานวนเงิน

                ขั้นสูงสุดที่กําหนดไวในพระราชกฤษฎีกา”

                         บทบัญญัติแหงพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2519 กําหนดใหใช
                ความแทนวา





         342     รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข
                 นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”
   358   359   360   361   362   363   364   365   366   367   368