Page 292 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 292

สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
                                                                                               National Human Rights Commission of Thailand


                        การบัญญัติรับรองสิทธิของประชาชนไวในรัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับจึงกอใหเกิดความขัดแยงในการบริหาร
               จัดการที่ดินของรัฐ เนื่องดวยกฎหมายที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการที่ดินของรัฐสวนใหญเปนกฎหมายที่บัญญัติขึ้น

               กอนที่รัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับจะใชบังคับ ซึ่งใหอํานาจในการบริหารจัดการที่ดินของรัฐเปนอํานาจของรัฐ

               แตเพียงผูเดียว เจาหนาที่รัฐสวนใหญไมคุนเคยกับการบังคับใชกฎหมายในระดับรัฐธรรมนูญ จึงอางอาศัยกฎหมาย

               ในระดับพระราชบัญญัติ พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ตลอดจนประกาศและคําสั่งตาง ๆ เปนแนวทางในการ
               บริหารจัดการที่ดิน

                        การพิจารณาใหที่ดินเปนที่ราชพัสดุ

                        ความหมายของที่ราชพัสดุตามมาตรา 4 และมาตรา 5 พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518

                        มาตรา 4 “ที่ราชพัสดุ” หมายความวา อสังหาริมทรัพยอันเปนทรัพยสินของแผนดินทุกชนิด
               เวนแตสาธารณสมบัติของแผนดิน ดังตอไปนี้

                        (1)  ที่ดินรกรางวางเปลา และที่ดินซึ่งมีผูเวนคืนหรือทอดทิ้งหรือ กลับมาเปนของแผนดินโดยประการอื่น

               ตามกฎหมายที่ดิน

                        (2)  อสังหาริมทรัพยสําหรับพลเมืองใชหรือสงวนไวเพื่อประโยชน ของพลเมืองใชรวมกัน เปนตนวา
               ที่ชายตลิ่ง ทางนํ้า ทางหลวง ทะเลสาบ สวนอสังหาริมทรัพยของรัฐวิสาหกิจที่เปนนิติบุคคลและขององคการปกครอง

               ทองถิ่นไมถือวาเปนที่ราชพัสดุ มาตรา 5 ใหกระทรวงการคลังเปนผูถือกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุ

                        บรรดาที่ราชพัสดุที่กระทรวง ทบวง กรมใดไดมาโดยการเวนคืนหรือ การแลกเปลี่ยนหรือโดยประการอื่น

               ใหกระทรวงการคลังเขาถือกรรมสิทธิ์ในที่ราชพัสดุนั้น ทั้งนี้ยกเวนที่ดินที่ไดมาโดยการเวนคืนตามกฎหมายวาดวย
               การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

                        การไดมาซึ่งที่ราชพัสดุ มีหลายทาง มีดังนี้

                        (1)  การประกาศสงวนหวงหามไวใชในราชการ โดยกระทรวง ทบวง กรมตาง ๆ ประกาศสงวนหวงหาม

               ไวใชในราชการ และไดเขาไปใชประโยชนตามวัตถุประสงคของการหวงหามแลวตามคําวินิจฉัยของคณะกรรมการ
               กฤษฎีกา (คณะที่2) เรื่องเสร็จที่ 382/2534

                        (2)  ตกเปนของรัฐเนื่องจากคางชําภาษีอากร กรณีที่ผูใดคางชําระภาษีอากร และไมสามารถชําระได

               ในที่สุดจะถูกรัฐยึดที่ดินมาชําระแทน

                        (3)  โดยคําพิพากษาของศาล ในกรณีมีขอพิพาทโตแยงกรรมสิทธิ์ในที่ราชพัสดุ และมีการฟองรอง
               ตอศาล ศาลไดพิจารณาจากพยานหลักฐานตาง ๆ แลว พิพากษาใหกระทรวงการคลังเปนผูมีสิทธิดีกวา

               โดยถูกตองตามกฎหมาย ซึ่งตามความเปนจริงแลวมีสิทธิมาแตเดิมอยูแลวมิใชเพิ่งไดมา เพราะคําพิพากษาของศาล

                        (4)  โดยการเวนคืน เชน กรมชลประทานเวนคืนที่ดินเพื่อประโยชนในการชลประทาน กรมการบินพาณิชย

               เวนคืนที่ดินเพื่อกอสรางทาอากาศยาน




                                                                       รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข  271
                                                                นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”
   287   288   289   290   291   292   293   294   295   296   297