Page 290 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 290

สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
                                                                                               National Human Rights Commission of Thailand

                        (2)  อสังหาริมทรัพยสําหรับพลเมืองใชหรือสงวนไวเพื่อประโยชนของพลเมืองใชรวมกัน เปนตนวา

               ที่ชายตลิ่งทางนํ้า ทางหลวง ทะเลสาบ

                        สวนอสังหาริมทรัพยของรัฐวิสาหกิจที่เปนนิติบุคคล และขององคการปกครองทองถิ่นไมถือวา

               เปนที่ราชพัสดุ อสังหาริมทรัพยอันเปนทรัพยสินของแผนดินทุกชนิดอันเปนที่ราชพัสดุ ที่กระทรวง ทบวง กรม
               ไดมาโดยประกาศสงวนไวใชในราชการหรือตกเปนของรัฐบาล เนื่องจากคางชําระภาษีอากรหรือรัฐบาลจัดซื้อ

               ดวยเงินงบประมาณ หรือโบราณสถาน กําแพงเมือง คูเมือง หรือโดยคําพิพากษาของศาล หรือที่ดินเหลือเศษ

               จากการเวนคืนซึ่งรัฐบาลตองจายเงินชดเชย หรือโดยคําสั่งนายกรัฐมนตรีตามธรรมนูญการปกครอง หรือเอกชน

               บริจาคใหทางราชการ หรือโดยเขาครอบครองใชประโยชนในที่ดินรกรางวางเปลา หรือโดยประการอื่น ๆ กระทรวง
               การคลังจะเปนผูถือกรรมสิทธิ์ ตามมาตรา 5 ของพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518 ยกเวนเฉพาะที่ดิน

               ที่ไดมาโดยการเวนคืนตามกฎหมายวาดวยการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม

                        วัตถุประสงคที่ราชพัสดุมีไวเพื่อใชประโยชนในทางราชการ แตถาที่ราชพัสดุแปลงใดไมไดใชประโยชน

               ในทางราชการ หรือไมไดสงวนไวเพื่อประโยชนในราชการ กรมธนารักษจะนํามาจัดหาประโยชนโดยการจัดใหเชา
               หรือโดยวิธีการจัดทําสัญญาตางตอบแทนอื่น นอกเหนือจากการจัดใหเชาก็ได สําหรับการจัดหาประโยชนในลักษณะ

               ใดขึ้นอยูกับสภาพทําเลของที่ราชพัสดุ โดยคํานึงถึงประโยชนสูงสุดทางดานเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดลอม

               เปนสําคัญ

                        กระทรวงการคลังมีหนาที่จัดการปกครองที่หลวงอันเปนราชพัสดุ หรือ ที่ราชพัสดุ ก็โดยไดรับ
               พระราชทานพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวรัชกาลที่ 6 ซึ่งไดมีพระบรมราชโองการ

               เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2464 ใหรวบรวมบรรดาที่ดินของหลวงในกระทรวงตาง ๆ มาขึ้นทะเบียนราชพัสดุ

               ไวทางกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ (กระทรวงการคลัง) เพื่อปกครองใหเปนหลักฐาน กระทรวงการคลัง

               จึงไดเขาบริหารจัดการที่ราชพัสดุเรื่อยมาและไดออกระเบียบกระทรวงการคลังวางหลักเกณฑและวิธีการ
               ในการบริหารขึ้น และปรับปรุงเรื่อยมาเปน “ระเบียบการปกครองและจัดประโยชนที่ดินสิ่งปลูกสรางราชพัสดุ

               พ.ศ.2485” ตอมา ไดมีการออกกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารที่ดินของรัฐออกมาใชบังคับอีกเปนจํานวนมาก

               ทําใหการบริหารที่ดินของรัฐที่ใชในกิจการของรัฐบาลกระจัดกระจายออกไปอีก และเกิดปญหาในการบริหาร

               ที่ไมเปนเอกภาพ จนกระทั่งวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2518 จึงไดมีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ใหพระราชบัญญัติ
               ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2518 มีผลใชบังคับ โดยมีเหตุผลในการตราพระราชบัญญัตินี้วา เนื่องจาก ในขณะนั้นไมมีกฎหมาย

               วาดวยการปกครอง ดูแล รักษา ที่ราชพัสดุ ทําใหเกิดปญหายุงยากในการปฏิบัติหลายประการ จึงใหมีกฎหมายวา

               ดวยการจัดระเบียบที่ราชพัสดุขึ้นโดยเฉพาะ ใหกระทรวงการคลังมีอํานาจหนาที่ เพื่อการประหยัดและขจัดปญหา

               งานซํ้าและซอนกัน นอกจากนี้ ยังมีประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 216 ลงวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2515 (ฉบับที่ 11)
               พ.ศ. 2518 ใหกระทรวงการคลังมีอํานาจหนาที่ในกิจการที่เกี่ยวกับที่ราชพัสดุ โดยมีเหตุผลวา โดยที่กฎหมาย





                                                                       รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข  269
                                                                นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”
   285   286   287   288   289   290   291   292   293   294   295