Page 289 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 289

สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
                National Human Rights Commission of Thailand

                         1.  วัตถุประสงคการมีที่ราชพัสดุ คือ เพื่อใชราชการสวนที่เหลือใชหรือมิไดใชใหกระทรวงการคลัง

                จัดหาผลประโยชนนํารายไดเขางบประมาณแผนดิน สวนการบริหารงาน พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวรัชกาลที่ 6

                ทรงมีพระบรมราชานุมัติใหกระทรวงการคลังเปนผูรวบรวมที่ราชพัสดุไว ทั้งนี้เพราะที่ราชพัสดุเปนทรัพย

                คงพระคลังอยางหนึ่ง และใหกระทรวงการคลังจัดการให กระทรวง ทบวง กรม ตาง ๆ ใหราชการเพื่อเปนการ
                ทุนพระราชทรัพย เพื่อประหยัดงบประมาณแผนดิน

                         2.  เนื่องจากปจจุบันนี้ไมมีกฎหมายวาดวยการปกครองดูแลรักษาที่ราชพัสดุใหเปนไปโดยมีระเบียบ

                และหลักเกณฑที่แนนอน ทําใหเกิดปญหายุงยากในทางปฏิบัติหลายประการ สมควรใหมีกฎหมายวาดวย

                การจัดระเบียบที่ราชพัสดุขึ้นโดยเฉพาะ โดยใหกระทรวงการคลังมีอํานาจหนาที่เกี่ยวกับการนี้ เพื่อเปนการประหยัด
                และขจัดปญหางานซํ้าและซอนกัน

                         3.  การปกครองดูแลที่ราชพัสดุนี้ตั้งแตในรัชสมัยรัชกาลที่ 6 เปนตนมา ไดเปนหนาที่ของกระทรวง

                การคลังที่จะเปนเจาหนาที่ แตตอมาภายหลังไดมีการออกประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย ประมวลกฎหมายที่ดิน

                และสุดทายในป 2506 ไดมีการออกพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม หมดอํานาจหนาที่ของกระทรวง
                การคลัง การมีกฎหมายมาระยะหลังนี้ไดทําเกิดปญหาไมสอดคลองกันและปญหาในทางปฏิบัติหลายอยาง

                หลายประการดวยกัน

                         ในป 2518 สภานิติบัญญัติแหงชาตินํา รางพระราชบัญญัติในชื่อ “รางพระราชบัญญัติจัดระเบียบ

                ที่ราชพัสดุ พ.ศ. ....” เขาสูการพิจารณา นายทองตอ กลวยไม ณ อยุธยา สมาชิกสภานิติบัญญัติ เสนอความเห็นตอ
                ที่ประชุมวา “รางพระราชบัญญัติฉบับนี้ ไมสมควรรับหลักการ เพราะวาหลักการบอกวาใหมีกฎหมายวาดวย

                การจัดระเบียบ การจัดระเบียบนั้น เปนอํานาจของฝายบริหารที่จะตองจัดใหเหมาะสมกับกาลสมัยและเหตุการณ

                ตาง ๆ ควรจะเปนระเบียบภายในของฝายบริหารมากกวา ในทางกฎหมายนั้นไดมีกฎหมายคุมครองที่ราชพัสดุ

                อยูแลวหลายฉบับครบถวน โดยเฉพาะในมาตรา 4 ซึ่งบอกวาที่ราชพัสดุหมายความวา อสังหาริมทรัพย อันเปน
                ทรัพยสินของแผนดินทุกชนิด ก็จะไดวาลอขอความมาจากประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา 1304 (3) คือ

                ยกเวนอนุมาตรา (1) (2) แตวาในมาตรา 4 นี้เองก็มีขอความคลุมเครือที่วา ที่ราชพัสดุ หมายถึง อสังหาริมทรัพย

                ทุกชนิด” ดังนั้น จึงมีการแกไขชื่อเปน “พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. ....” ดังปรากฏในปจจุบัน ซึ่งพระราชบัญญัติ

                ดังกลาวนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เลม 92 ตอนที่ 54 เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2518
                         ในพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518 มาตรา 4 ไดนิยามความหมายของคําวาที่ราชพัสดุไววา

                หมายถึง อสังหาริมทรัพยอันเปนทรัพยสินของแผนดินทุกชนิด เวนแตสาธารณสมบัติของแผนดิน ดังตอไปนี้

                         (1)  ที่ดินรกรางวางเปลาและที่ดินซึ่งมีผูเวนคืนหรือทอดทิ้ง หรือกลับมาเปนของแผนดินโดยประการอื่น

                ตามกฎหมายที่ดิน







         268     รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข
                 นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”
   284   285   286   287   288   289   290   291   292   293   294