Page 35 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง การเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผู้ติดเชื้อเอชไอวี
P. 35

8  รายงานการศึกษาวิจัย
              การเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อเอชไอวี



              ที่เกิดขึ้น คุณภาพของการปรึกษาหารือขึ้นอยูกับความสมบูรณในการเสนอประเด็นจากทุกฝาย ขอมูลที่มี
              ความแมนยําในเชิงเหตุผล ความมีสํานึกในการตัดสินใจ (conscientiousness)

                     โดยทั่วไป การคัดเลือกผูเขารวมสํารวจความคิดเห็นแบบปรึกษาหารือจะมาจากการสุมเลือกโดยพิจารณา
              ความครอบคลุมของภูมิหลัง ความแตกตางทั้งในดานพื้นที่ ลักษณะประชากร โครงสรางของกระบวนการสํารวจ

              ความคิดเห็นแบบปรึกษาหารือ ประกอบดวย การอภิปรายกลุมยอยโดยมีผูดําเนินการอภิปรายที่มีประสบการณ
              และการใหขอมูลจากผูเชี่ยวชาญในเวทีใหญที่ผูเขารวมมีโอกาสซักถาม และการสํารวจความคิดเห็นในขั้นสุดทาย

              โดยหลักการ ผูเขารวมกระบวนการจะมีโอกาสในการทบทวนสิ่งที่ฟงมาจากเวทีใหญกอนจะตัดสินใจ
              ตอบแบบสํารวจ การใหขอมูลกับผูเขารวมอยางรอบดานจึงเปนเรื่องสําคัญในบางกรณีอาจมีการใหขอมูล

              กับผูเขารวมเพื่อเปนการเตรียมการลวงหนาอีกดวย 8
                     แตสําหรับในงานวิจัยครั้งนี้ จะปรับรูปแบบจากการสํารวจความเห็นมาเปนการสนทนากลุม ตั้งแต

              การเลือกผูเขารวมสนทนากลุม จะใชวิธีการเลือกแบบเฉพาะเจาะจงเพื่อใหไดผูที่สามารถใหขอมูลไดอยางชัดเจน
              ในเรื่องนั้น ๆ (ในขณะที่การสํารวจความเห็นแบบปรึกษาหารือใชการสุมเลือก) และในกระบวนการสนทนากลุมนี้

              จะมีขั้นตอน ดังนี้
                     -    เริ่มจากการตั้งคําถามเบื้องตนถึงสภาพปญหา สาเหตุและปจจัยที่กอใหเกิดการเลือกปฏิบัติในการ

              ประกอบอาชีพของผูติดเชื้อ และผลกระทบที่เกิดขึ้น
                     -    ใหขอมูลที่ถูกตองเกี่ยวกับการแพรกระจายและการติดเชื้อเอชไอวี มาตรฐานสากลของการคุมครอง

              สิทธิในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อเอชไอวี
                     -    ยอนกลับมาใหผูเขารวมสนทนาใครครวญ ถกแถลงถึงคําถามเดิมและตอบคําถามอีกครั้ง

                     -    รวมกันพัฒนาขอเสนอที่เปนทางออกสําหรับปญหาการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของ
              ผูติดเชื้อ

                     นอกจากการเก็บขอมูลขางตนแลว ผูวิจัยยังกําหนดใหมีการศึกษากรณีศึกษาเพิ่มเติมดวย โดยเฉพาะ
              กรณีศึกษา Best Practices ในกิจการที่ไมมีการเลือกปฏิบัติ หรือมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการจางงานจาก

              การเลือกปฏิบัติมาสูการไมเลือกปฏิบัติ โดยใหความสําคัญเปนพิเศษกับประเด็นที่เกี่ยวของกับเหตุปจจัยในการ
              เปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติตอผูติดเชื้อเปนหลัก 9

                     เมื่อผูวิจัยเก็บขอมูลครบทุกกลุมแลว จึงประมวลผลขอมูลเพื่อยกรางเปนผลการศึกษาที่แสดงถึงปญหาการ
              เลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อในสังคมไทย สาเหตุ/ปจจัยของการเลือกปฏิบัติ และผลกระทบที่เกิด

              ขึ้น พรอมกับสรุปสังเคราะหและยกรางขอเสนอในดานนโยบายและกฎหมายคุมครองสิทธิในการประกอบอาชีพ
              ของผูติดเชื้อเอชไอวี และนํารางรายงานดังกลาว เสนอตอ เวทีประชุมเชิงปฏิบัติการของผูมีสวนไดสวนเสีย

              (Stakeholder’s Workshop) กอนจะนําเสนอตอเวทีสาธารณะ และปรับปรุงเปนรายงานฉบับสมบูรณ
              ตอสํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติตอไป





              8   James Fishkin and Cynthia Farrar,. Deliberative Polling: From Experiment to Community Resource. InGastil, John and Levine, Peter.eds.
                The Deliberative Democracy Handbook: Strategies for Effective Civic Engagement in the Twenty-First Century. pp. 68-79. San Francisco:
               Jossey-Bass, 2005.
              9   เปนระเบียบวิธีการเก็บขอมูลที่มีการเพิ่มเติมจากที่ประชุมเชิงปฏิบัติการผูมีสวนไดสวนเสีย ครั้งที่ 1
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40