Page 64 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ปัญหาและมาตรการทางกฎหมายในการรับรองและคุ้มครองสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว
P. 64

รายงานการศึกษาวิจัย  49
                                        เรื่อง ปญหาและมาตรการทางกฎหมายในการรับรองและคุมครองสิทธิในความเปนอยูสวนตัว





                                  ผูตองขังอาจขออนุญาตซื้อวิทยุไวในหองขังของตนเปนสวนตัวได ตามเงื่อนไขของเรือนจํา
               สวนโทรทัศนนั้น ผูตองขังจะไมไดรับอนุญาตใหมีไวเปนการสวนตัว เวนแตจะมีเหตุผลพิเศษ และโดยปกติผูตองขัง
               จะไดรับอนุญาตใหชมโทรทัศนที่ทางเรือนจําจัดไวใหสําหรับนักโทษทุกคน

                              4)   การคุมครองสิทธิตามกฎหมาย

                                  ผูตองโทษในเรือนจําอาจถูกจํากัดสิทธิ โดยการใชอํานาจและดุลพินิจของเจาหนาที่
               ในเรือนจํา รวมทั้งการถูกดําเนินคดีอาญา คดีปกครอง การถูกบังคับใหเขารับการบําบัดรักษา และการถูกลงโทษ
               ทางวินัย ดังนั้น กฎหมายเรือนจําจึงไดวางบทบัญญัติใหนักโทษมีสิทธิรองทุกขเพื่อเยียวยาสิทธิจากการกระทํา

               ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนและสิทธิตามกฎหมาย หรือการใชอํานาจโดยไมเปนธรรมของเจาหนาที่ โดยผูตองโทษ

               มีโอกาสยื่นคํารองขอ รองทุกข และมีคําแนะนําแกผูอํานวยการเรือนจําที่เกี่ยวกับเรื่องของตน รวมทั้งมีโอกาส
               พบเพื่อปรึกษาหารือดวย นอกจากนั้น ยังมีสิทธิในการยื่นคํารองทุกขกรณีการถูกลงโทษทางวินัยโดยไม
               เปนธรรมดวย




               2.4 สิทธิในความเปนสวนตัว และการรับรองและคุมครองในประเทศสหรัฐอเมริกา
                        ประเทศสหรัฐอเมริกาถือเปนดินแดนแหงเสรีภาพและยึดถือแนวความคิดเรื่องสิทธิตามธรรมชาติ
               วามนุษยทั้งหลายเกิดมาเทาเทียมกัน มนุษยมีสิทธิบางประการที่ติดตัวมนุษยมาตั้งแตเกิดจนกระทั่งถึงแกความตาย

               สิทธิดังกลาว ไดแก สิทธิในชีวิต เสรีภาพในรางกาย สิทธิในทรัพยสิน และความเสมอภาค ซึ่งเปนสิทธิที่ไมสามารถ

               โอนใหแกกันได และผูใดจะลวงละเมิดมิได โดยหลักประกันสําคัญที่สุดในการคุมครองสิทธิของบุคคล
               ของสหรัฐอเมริกา ไดแก รัฐธรรมนูญโดยเฉพาะฉบับแกไขเพิ่มเติม (Amendments) มาตรา 1 - 10 หรือ ที่เรียกวา
               Bill of Rights แตการศึกษาบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแตเพียงอยางเดียวนั้น อาจไมสามารถทราบถึงขอบเขต

               สิทธิที่ไดรับการคุมครองและแนวปฏิบัติที่แทจริงได จึงจะตองศึกษาแนวทางคําพิพากษาของศาลสูงสุด

               ของสหรัฐอเมริกา (U.S. Supreme court) ซึ่งเปนองคกรที่มีอํานาจตีความรัฐธรรมนูญดวย
                        โดยในการศึกษากฎหมายเกี่ยวกับการรับรองและคุมครองสิทธิสวนบุคคลของสหรัฐอเมริกานั้น
               ไดแบงหัวขอการศึกษาออกเปนสองหัวขอใหญ ไดแก (2.4.1) กฎหมายเกี่ยวกับการรับรองและคุมครองสิทธิ

               สวนบุคคลของบุคคลทั่วไปของสหรัฐอเมริกา และ (2.4.2) กฎหมายเกี่ยวกับการรับรองและคุมครองสิทธิสวนบุคคล

               ของผูตองขังของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
                        2.4.1   กฎหมายเกี่ยวกับการรับรองและคุมครองสิทธิสวนบุคคลของบุคคลทั่วไป
                              กฎหมายของสหรัฐอเมริกาไดบัญญัติรับรองและคุมครองสิทธิสวนบุคคลของบุคคลทั่วไป

               ไวในบทบัญญัติแกไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกาฉบับตาง ๆ ดังนี้

                              1)   บทบัญญัติแหงมาตรา 1 (First Amendment 1971) กําหนดวา“รัฐสภาจะบัญญัติ
               กฎหมายเกี่ยวกับการศาสนาหรือหามการปฏิบัติการตามพิธีกรรมทางศาสนาโดยเสรีหรือตัดทอนเสรีภาพ
               ของประชาชนในการพูด หรือการพิมพโฆษณา หรือสิทธิของประชาชนที่จะชุมนุมกันโดยสงบและที่จะยื่น

               เรื่องราวรองทุกขตอรัฐบาลไมได
   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69