Page 234 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 234
232 ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๑ ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗
(๔) ทบทวนผู้ที่จะทำาหน้าที่ในการพิจารณาสั่งจ่ายค่าตอบแทนและค่าทดแทน ใน
ชั้นพิจารณาและในชั้นอุทธรณ์ จากเดิมที่กำาหนดให้คณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย
และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำาเลยในคดีอาญามีหน้าที่พิจารณาอนุมัติค่าตอบแทน ค่าทดแทน
หรือค่าใช้จ่ายตามพระราชบัญญัตินี้ (มาตรา ๘) และกรณีผู้ยื่นคำาขอไม่เห็นด้วยกับคำาวินิจฉัยของ
คณะกรรมการ ให้มีสิทธิอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ (มาตรา ๒๕) ควรแก้ไขเป็น ให้เจ้าหน้าที่ของกรม
คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ รับผิดชอบพิจารณาจ่ายค่าตอบแทน ค่าทดแทน หรือค่าใช้จ่ายดังกล่าว
และให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ มีอำานาจหน้าที่พิจารณาคำาสั่งของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ ให้คำาสั่ง
ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เป็นที่สุด เพื่อให้การพิจารณาในเบื้องต้นมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น
และให้ระบบการตัดสินใจอยู่ในระบบของฝ่ายบริหาร
๖.๒.๒ คณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงยุติธรรม (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) สำานักงาน
ตำารวจแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ควรศึกษาหลักเกณฑ์ แนวทางการเยียวยาผู้ต้องหา
ในคดีอาญาที่ถูกควบคุมตัวระหว่างถูกดำาเนินคดีในชั้นพนักงานสอบสวน
สำาหรับความเห็นของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐที่มีอำานาจหน้าที่ในเรื่องนี้ สำานักเลขาธิการ
คณะรัฐมนตรีได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ นร ๐๕๐๕/๒๓๒๕๓ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ แจ้งว่า
รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้
กระทรวงยุติธรรม (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) พิจารณาร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงการ
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข
สำานักงานตำารวจแห่งชาติ สำานักงานอัยการสูงสุด และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง จัดทำารายงานผล
การพิจารณาหรือผลการดำาเนินงานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วแจ้งผลการพิจารณาหรือ
ผลการดำาเนินการเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
เมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาและมีมติแล้ว สำานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้แจ้งผลการพิจารณา
ของคณะรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบ