Page 229 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 229
227
ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๑ ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗
๔.๔ กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
ข้อ ๒ “...
๓. รัฐภาคีแต่ละรัฐแห่งกติกานี้รับที่จะ
ก. ประกันว่า บุคคลใดที่สิทธิหรือเสรีภาพของตนซึ่งรับรองไว้ในกติกานี้ถูกละเมิด
ต้องได้รับการเยียวยาอย่างเป็นผลจริงจัง โดยไม่ต้องคำานึงว่าการละเมิดนั้นจะถูกกระทำาโดยบุคคล
ผู้ปฏิบัติการตามหน้าที่
ข. ประกันว่า บุคคลใดที่เรียกร้องการเยียวยาดังกล่าวย่อมมีสิทธิที่จะได้รับการ
พิจารณาจากฝ่ายตุลาการ ฝ่ายบริหาร หรือฝ่ายนิติบัญญัติที่มีอำานาจหรือจากหน่วยงานอื่นที่มีอำานาจ
ตามที่กำาหนดไว้ โดยระบบกฎหมายของรัฐ และจะพัฒนาหนทางการเยียวยาด้วยกระบวนการยุติธรรม
ทางศาล
ค. ประกันว่า เจ้าหน้าที่ผู้มีอำานาจต้องบังคับการให้การเยียวยานั้นเป็นผล”
๕. ความเห็นคณะอนุกรรมการด้านเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุง
กฎหมาย และกฎ เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
คณะอนุกรรมการด้านเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ได้พิจารณาคำาร้อง ข้อมูล และความเห็นของกรมคุ้มครองสิทธิ
และเสรีภาพ แนวทางการเยียวยาจำาเลยและผู้เสียหายในคดีอาญาตามกฎหมายอื่น รัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิ
ทางการเมือง แล้วเห็นว่า
๕.๑ พระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำาเลย
ในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔
มีเจตนารมณ์รับรองสิทธิของบุคคลซึ่งได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำาความ
ผิดอาญาของผู้อื่นโดยตนมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำาความผิด โดยจะได้รับการเยียวยาเบื้องต้น
จากรัฐ รวมถึงรับรองสิทธิในการได้รับค่าทดแทนในกรณีของบุคคลซึ่งตกเป็นจำาเลยในคดีอาญา
และถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดี หากปรากฏตามคำาพิพากษาถึงที่สุดในคดีนั้น ว่าข้อเท็จจริง
ฟังเป็นยุติว่าจำาเลยมิได้เป็นผู้กระทำาความผิดหรือการกระทำาของจำาเลยไม่เป็นความผิด โดยให้
รัฐเยียวยาในเบื้องต้นซึ่งการจ่ายค่าตอบแทนแก่ผู้เสียหาย ค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำาเลย
ในคดีอาญาดังกล่าวได้ กำาหนดเงื่อนไขการใช้สิทธิว่าผู้เสียหาย จำาเลย หรือทายาทต้องยื่นคำาขอ
เพื่อการเยียวยานั้นภายใน ๑ ปี ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทน
ผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำาเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ เงื่อนไขอายุความ ๑ ปี
จึงเป็นการจำากัดสิทธิเกินควร และทำาให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติแก่บุคคลผู้มีสิทธิ เพราะผู้ที่มีสิทธิ