Page 239 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 239
237
ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๑ ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗
๑.๔ สิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัวเกี่ยวกับการอยู่หรือพักอาศัย
๑.๔.๑ ผู้ร้องร้องเรียนว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐจากหลายหน่วยงาน เช่น กรมสอบสวน
คดีพิเศษ ฝ่ายปกครองจังหวัด เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูสีฐาน เข้าตรวจค้นบ้านโดยไม่มี
หมายค้น และไม่ได้แจ้งเหตุของการตรวจค้นให้ทราบ ทั้งนี้ ICCPR ข้อ ๑๗ ให้ความคุ้มครองว่า
บุคคลจะถูกแทรกแซงความเป็นส่วนตัว ... เคหสถานโดยพลการหร ือไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่ได้
การที่เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าตรวจค้นบ้านในลักษณะดังกล่าว จึงเป็นการแทรกแซงและละเมิดสิทธิใน
๑๖๑
ความเป็นอยู่ส่วนตัวเกี่ยวกับการอยู่หรือพักอาศัยของผู้ร้อง
๑.๔.๒ ผู้ร้องร้องเรียนว่า ผู้ร้องพักอาศัยในคอนโดมิเนียมเดอะวอเตอร์ฟอร์ดไดมอนด์
ถูกคณะกรรมการนิติบุคคลกลั่นแกล้งด้วยการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดหน้าห้องพักและหน้าลิฟต์
ชั้นที่ผู้ร้องพักอาศัย ทั้งนี้ ICCPR ข้อ ๑๗ ให้ความคุ้มครองว่า บุคคลจะถูกแทรกแซงความ
เป็นส่วนตัว ... เคหสถานโดยพลการหร ือไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่ได้ การท ี่คณะนิติบุคคลของ
คอนโดมิเนียมติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในลักษณะดังกล่าว จึงเป็นการละเมิดสิทธิในความ
๑๖๒
เป็นอยู่ส่วนตัวเกี่ยวกับการอยู่หรือพักอาศัยของผู้ร้อง
๒. อำานาจหน้าที่
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๒๕๗ (๕) และพระราชบัญญัติ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๕ (๓) กำาหนดให้คณะกรรมการสิทธิ
มนุษยชนแห่งชาติมีอำานาจหน้าที่ “เสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ต่อรัฐสภาหรือคณะรัฐมนตรีเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน”
เมื่อพิจารณาเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ความสำาคัญและจำาเป็นของการคุ้มครองสิทธิในความ
เป็นอยู่ส่วนตัวเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัว เนื่องจากผลการศึกษาข้างต้นแล้วเห็นว่า เป็นกรณีที่
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพิจารณาเห็นควรนำาเรื่องร้องเรียนอันมีผลกระทบต่อสิทธิ
ในความเป็นอยู่ส่วนตัวเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล เข้าสู่การพิจารณา ประกอบกับรัฐบาลอยู่ระหว่าง
การร่างกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอันเป็นกฎหมายสำาคัญในการติดต่อระหว่าง
ประเทศ และหลายประเทศมีกฎหมายหรือหลักเกณฑ์ในเรื่องดังกล่าวแล้ว จึงเห็นควรจัดทำาเป็น
ข้อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายและกฎว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิในความ
เป็นอยู่ส่วนตัวเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลต่อรัฐสภาหรือคณะรัฐมนตรี เพื่อให้มีมาตรการให้ความ
คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่อาศัยหรือติดต่อกับประเทศไทยที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล
และได้รับการยอมรับกันทั่วไป
๑๖๑ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ, รายงานผลการพิจารณาที่ ๒๔๗/๒๕๕๖ ลงวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๖
๑๖๒ สำานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติคำาร้องที่ ๔๖/๒๕๕๖ ลงวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๖