Page 233 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 233
231
ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๑ ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗
สมควรร่วมกันศึกษาและวิเคราะห์เพื่อวางหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนและให้มีมาตรฐานเดียวกันในเรื่อง
การให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ได้รับความเสียหายจากการกระทำาของรัฐหรือเจ้าหน้าที่รัฐ เนื่องจาก
ข้อบกพร่องของกระบวนการยุติธรรม หรือจากการใช้นโยบายหรือการบริหาร หรือการกระทำาใดๆ
ที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับประชาชน พร้อมทั้งเพิ่มเติมมาตรการการให้ความช่วยเหลือเยียวยา
ทางด้านอื่นๆ นอกเหนือจากการเยียวยาด้านการเงิน
๖.๑.๒ สำานักงานศาลยุติธรรม สำานักงานอัยการสูงสุด คณะรัฐมนตรี โดยกระทรวง
ยุติธรรม (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) สำานักงานตำารวจแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม และ
หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ควรพัฒนาและจัดสรรทรัพยากรอย่างเพียงพอในการบริหารงาน
กระบวนการยุติธรรมทางอาญาให้มีคุณภาพ ประสิทธิภาพและเกิดความเป็นธรรมมากขึ้น เพื่อให้
เป็นหลักประกันและเป็นที่เชื่อถือได้ว่าผู้ที่ถูกลงโทษเป็นผู้กระทำาความผิดอย่างแท้จริงตาม
กฎหมาย
๖.๑.๓ นอกจากการกำาหนดหลักเกณฑ์การเยียวยาแก่ผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจาก
ข้อบกพร่องของกระบวนการยุติธรรมข้างต้นแล้ว คณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงยุติธรรม (กรม
คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) ควรมีข้อเสนอเกี่ยวกับการวางหลักเกณฑ์อย่างชัดเจนในการเยียวยา
ความเสียหายที่เกิดจากการกระทำาของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบุคคลที่ทำาตามหน้าที่แก่ผู้ที่ได้รับ
ผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมือง เพื่อลดการใช้ดุลยพินิจและการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม
๖.๒ ข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย
๖.๒.๑ คณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงยุติธรรม (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) สมควร
เร่งรัดการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำาเลย
ในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ ในประเด็น ดังนี้
(๑) กำาหนดเวลาหรืออาจเรียกว่าอายุความการใช้สิทธิยื่นคำาขอจากเดิม ๑ ปี เป็น ๑๐ ปี
(มาตรา ๒๒) รวมทั้ง กำาหนดให้มีการแจ้งสิทธิในเรื่องนี้แก่ผู้เสียหายและจำาเลยในคดีอาญาที่ได้รับ
ความเสียหายจากข้อบกพร่องในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา
(๒) การเพิ่มฐานความผิดท้ายพระราชบัญญัติฯ ให้ครอบคลุมเรื่องความผิดฐาน
ชิงทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บหรือถึงแก่ความตาย และความผิดเกี่ยวกับการ
ค้ามนุษย์
(๓) เงื่อนไขการจ่ายค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายให้แก่จำาเลยในคดีอาญาให้ได้รับการ
เยียวยา จากเดิมที่กำาหนดว่า ..... เมื่อศาลมีคำาสั่งยกฟ้อง หรือวันที่ศาลมีคำาสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้อง
เพราะปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าจำาเลยมิได้เป็นผู้กระทำาความผิด หรือวันที่มีคำาพิพากษาอันถึงที่สุด
ในคดีนั้นว่าข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าจำาเลยมิได้เป็นผู้กระทำาความผิด หรือการกระทำาของจำาเลยไม่เป็น
ความผิด ....(มาตรา ๒๒) ควรแก้ไขเป็น เมื่อศาลมีคำาพิพากษายกฟ้อง