Page 101 - โครงการศึกษาวิจัย เรื่อง สิทธิชุมชนและผลกระทบโครงการพัฒนาภาคใต้
P. 101
๘๗
อุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ําจึงเป็นเพียงการรองรับการย้ายฐานการผลิตเหล็กและอุตสาหกรรมรถยนต์ของ
ต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น คนประจวบคีรีขันธ์ไม่มีความรู้เรื่องเหล็ก แต่ชํานาญเรื่องสับปะรด มะพร้าว
ประมง พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ยังเป็นพื้นที่มีภัยแล้งซ้ําซากไม่เหมาะสมกับการตั้งอุตสาหกรรม
เหล็กต้นน้ําที่มีความต้องปริมาณน้ําใช้สูงมาก อุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ํายังมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงมาก
นอกจากนี้อุตสาหกรรมเหล็กยังมีมลพิษสูงและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอย่างรุนแรง การ
พัฒนาเมืองมลพิษเป็นความคิดของคนไร้วิสัยทัศน์
๒) พัฒนากรอบยุทธศาสตร์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ตามกรอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติฉบับที่ ๑๑ ที่ให้ความสําคัญกับการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขและเป็นธรรม รวมทั้งให้มี
การกระจายรายได้ และการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความมั่นคงทางอาหารและพลังงาน และเป็น
แผนการส่งเสริมการลงทุนอย่างยั่งยืนเพื่อสังคมมิตรไมตรี รับผิดชอบต่อคนรุ่นต่อไป และเป็นการพัฒนา
ที่เป็นธรรม
๓) ประสานความร่วมมือระหว่างจังหวัดและประชาชนในการวางยุทธศาสตร์และ
แผนพัฒนาจังหวัดร่วมกัน ทั้งในด้านการพัฒนาคนให้มีส่วนร่วม การสร้างการเรียนรู้เพื่อสร้างชีวิต
สร้างความสมดุลทางด้านอาหารและพลังงาน เศรษฐกิจและมีเสถียรภาพของความรู้ เชื่อมโยงเศรษฐกิจ
และความมั่นคงของภูมิภาคพัฒนาเศรษฐกิจ การอนุรักษ์ฟื้นฟูและการสร้างสังคมคาร์บอนต่ํา (Low
Carbon Society) ซึ่งเป็นสังคมที่ผู้คนในสังคมหันมาร่วมมือกันลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ใน
ทุกรูปแบบหรือในกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดจากการดํารงชีวิตปกติ โดยเฉพาะการลดปริมาณก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาจากกระบวนการผลิตของโรงงานหรือภาคอุตสาหกรรม เพื่อจะได้อยู่
ร่วมกันในสังคมที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี จากกรอบนี้มีการวางทิศทางการพัฒนาโดยดูศักยภาพเศรษฐกิจและ
ดูวิถีชีวิตของชุมชน กําหนดขึ้นมาเป็นแผนพัฒนาจังหวัด
๔) ขยายยุทธศาสตร์จังหวัดเรื่องประมงและประมงพื้นบ้าน ถึงแม้ว่าที่ผ่านมา
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์จะประสบความสําเร็จในการจัดทํายุทธศาสตร์และแผนจังหวัด โดยมีการ
พิจารณาจากศักยภาพจังหวัดและใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในการจัดทํา และได้มี
ข้อสรุปว่าการพัฒนาของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ไม่มีเรื่องอุตสาหกรรมเหล็ก รวมทั้งร่วมกันกําหนด
ยุทธศาสตร์ของจังหวัดไว้ว่า “ท่องเที่ยวอย่างมีคุณค่า สับปะรดและมะพร้าวเป็นที่หนึ่งของโลก และ
สังคมแห่งมิตรไมตรี” แต่ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ก็ยังมีชุมชนประมงพื้นบ้านตลอด
แนวชายฝั่งทะเล ๒๒๕ กิโลเมตร รวม ๔๘ หมู่บ้าน รวมทั้งยังเป็นแหล่งวางไข่ปลาทูปลาที่คนไทยกิน
มากที่สุด ( ร้อยละ ๗๑ เป็นปลาทูจากฝั่งอ่าวไทย ) มีผลผลิตประมงเพื่อบริโภคทั้งภายในประเทศและ
การส่งออก ปัจจุบันรายได้ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นประมงพาณิชย์ประมาณ ๗๗๐ ล้านบาทต่อปี
และประมงพื้นบ้านประมาณ ๗๐๐ ล้านบาทต่อปี ซึ่งชาวบ้านคาดว่ารายได้จากชุมชนประมงขนาดเล็ก