Page 40 - รายงานการศึกษาเรื่องโทษประหารชีวิตในประเทศไทย
P. 40
ต่อประชากร ๑๐๐,๐๐๐ คน แต่ในปี ค.ศ. ๑๙๙๒ มีจำานวนฆาตกร ๙.๔ คน ต่อประชากร
๑๐๐,๐๐๐ คน (Reggio, 2008)
ความสำาคัญของการตัดสินประหารชีวิตได้ขึ้นอยู่กับศาลสูงสุดเป็นสำาคัญ
โดยจะเห็นได้จากข้ออ้างที่สำาคัญทางกฎหมายของบางมลรัฐ ดังนี้
Wilkerson v. Utah 99 U.S. 130 (1878) ศาลได้สนับสนุนให้มีการประหารชีวิต
ด้วยการยิงเป้า เนื่องจากการประหารชีวิตด้วยรูปแบบอื่นเป็นการลงโทษที่มีความโหดร้ายทารุณ
อาทิ การประหารชีวิตด้วยการลาก การดึงร่างกายโดยแยกเป็นสี่ส่วน การควักเอาตับไต
ไส้พุงออกขณะที่ยังคงมีชีวิต การตัดศีรษะ การแยกร่างกายออกเป็นส่วน ๆ ในที่สาธารณะ การเผา
ขณะที่กำาลังมีชีวิต และการประหารในรูปแบบอื่น ๆ ที่มีลักษณะใกล้เคียงกันมีความโหดร้ายทารุณ
และเป็นสิ่งที่ต้องห้าม
Weems v. U.S. 217 U.S. 349 (1910) ศาลจะไม่ตัดสินลงโทษที่มีความโหดร้าย
และการลงโทษที่มีรูปแบบผิดปกติ โดยจะไม่กำาหนดขอบเขตของการลงโทษด้วยความโหดร้าย
และผิดปกติว่าเป็นรูปแบบของความชั่วร้าย โดยจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงความหมายของการลงโทษ
ที่โหดร้ายและผิดปกติ
Louisiana ex rel. Francis v. Resweber 329 U.S. 459 (1947) เมื่อ ๓
พฤษภาคม ๑๙๔๖ นักโทษประหารในคดีอุกฉกรรจ์ ชื่อ วิลลี่ ฟรานซิส (Willie Francis)
อายุ ๑๗ ปี ได้ถูกประหารชีวิตด้วยการใช้เก้าอี้ไฟฟ้า ซึ่งเมื่อได้นั่งบนเก้าอี้ไฟฟ้าและมีการ
กดสวิทซ์สำาหรับประหาร ปรากฏว่าเกิดความผิดพลาดของการประหารชีวิต แม้ว่านักโทษ
ดังกล่าวจะมีอาการช็อคอย่างรุนแรง แต่นักโทษประหารยังคงมีชีวิตอยู่ จึงได้มีการนำาตัว
นักโทษประหารดังกล่าวจากเก้าอี้ไฟฟ้าไปยังห้องขัง ต่อมาได้มีการพิจารณาการประหารใหม่
เกิดขึ้นภายหลัง ๖ วันหลังจากนั้น ซึ่งคณะผู้พิพากษา ๕ ต่อ ๔ เห็นว่าการประหารชีวิตที่เกิดขึ้น
ไม่ได้เป็นการลงโทษที่มีความโหดร้ายทารุณหรือมีความผิดปกติแต่อย่างใด เพื่อให้การดำาเนินการ
ประหารชีวิตได้เสร็จสิ้นตามคำาพิพากษา ความโหดร้ายที่เกิดขึ้นที่ตามมาจากการประหารชีวิต
ดังกล่าวข้างต้นไม่ได้เป็นความโหดร้ายที่มีความจำาเป็นในการทำาให้มนุษย์เสียชีวิตจากการประหาร
ดังนั้น นักโทษประหารชีวิตดังกล่าวจึงต้องถูกประหารชีวิต
Tropp v. Dulles 356 U.S. 86 (1958) ศาลได้มีระเบียบว่า การลงโทษผู้กระทำาผิด
ที่ต้องโทษประหารชีวิตจะต้องพิจารณาถึงความโหดร้ายและความผิดธรรมดา หากผู้ใดต้องพบกับ
ความทุกข์ทรมาน ความโหดร้ายที่รุนแรงมากเกินไป หรือการลงโทษที่ผิดธรรมดา จะต้องไม่มี
การปฏิบัติ เพื่อให้เป็นไปตามความเจริญก้าวหน้าของสังคม
Furman v. Georgia 408 U.S. 238 (1972) ศาลได้พิจารณาถึงการลงโทษประหารชีวิต
จะต้องไม่มีความโหดร้ายทารุณหรือผิดธรรมดา โดยมีความเกี่ยวข้องกับกรณีต่อไปนี้
โทษประหารชีวิตในประเทศไทย 27