Page 146 - ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงครามและข้อเสนอในการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
P. 146

อำานาจหน้าที่ในการพัฒนาปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งจะนำาไปสู่การสร้างกรอบความร่วมมือ
                  ด้านสิทธิมนุษยชน  คณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชนจะจัดทำาปฏิญญาสิทธิมนุษยชนอาเซียน

                  เป็นแนวทางการปฏิบัติให้รัฐสมาชิก

                             ประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิกของประชาคมอาเซียนจึงจำาเป็นต้องเตรียมความพร้อม
                  สำาหรับการเกิดประชาคมอาเซียนดังกล่าว  และแม้ว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศที่รองรับผู้ลี้ภัยมาเป็น
                  เวลากว่า ๔๐ ปี นับตั้งแต่สมัยสงครามอินโดจีนจนถึงปัจจุบัน  กฎหมายคนเข้าเมืองของประเทศไทยก็มิได้

                  ยอมรับการมีตัวตนของผู้ลี้ภัย ซึ่งย่อมปัญหาต่อการบริหารจัดการประชากรของประเทศไทย

                             ดังนั้น การรวมเป็นประชาคมอาเซียนใน พ.ศ. ๒๕๕๘ จะทำาให้ปัญหาในการบริหารจัดการ
                  กลุ่มผู้แสวงหาที่ลี้ภัยที่มีอยู่ในแต่ละประเทศทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากประชาคมอาเซียนจะทำาให้การ
                  เคลื่อนย้ายประชากรระหว่างประเทศทำาได้ง่ายขึ้น อาจทำาให้มีผู้ลี้ภัยที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่ม

                  จำานวนขึ้นด้วย

                             ในการเดินทางเข้าและออกจากประเทศสมาชิกอาเซียน จำาเป็นต้องสร้างมาตรฐานกฎหมาย
                  คนเข้าเมืองของแต่ละประเทศให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและคำานึงถึงสิทธิมนุษยชน แต่เมื่อพิจารณา
                  พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ จะเห็นว่ายังไม่สอดคล้องกับบริบทของสังคมอาเซียน โดยเฉพาะ

                  หลักสิทธิมนุษยชนของผู้ลี้ภัย

                             ปัจจุบัน ประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ ได้มีการพัฒนาด้านการคุ้มครองผู้ลี้ภัย  บางประเทศ
                  กำาลังทบทวนการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ๑๙๕๑  และการอนุวัติกฎหมายภายใน
                  ประเทศ เช่น ประเทศมาเลเซียกำาลังอนุวัติกฎหมายภายในเพื่อให้สอดคล้องกับข้อตกลงระหว่างประเทศ

                  มาเลเซียกับประเทศออสเตรเลีย เห็นว่า ในการเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนั้น หลาย
                  ประเทศได้มีการดำาเนินการหรือมีกฎหมายภายในที่สอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ๑๙๕๑

                  เรียบร้อยแล้ว หรืออยู่ระหว่างดำาเนินการ  ประเทศไทยก็จำาเป็นต้องพิจารณาแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้
                  อยู่ในกรอบและมาตรฐานเดียวกัน



                         ๒.  เพื่อลดและป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้ลี้ภัยในประเทศไทย

                             แม้ประเทศไทยจะเป็นภาคีของพันธกรณีระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ๗ ฉบับ
                  แต่ยังคงประสบปัญหาการคุ้มครองสิทธิของผู้ลี้ภัยหรือผู้แสวงหาที่ลี้ภัยอย่างต่อเนื่อง ปรากฏจากเรื่อง

                  ร้องเรียนที่ส่งมายังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้ลี้ภัย
                  ตัวอย่างเช่น

                         คำาร้องที่ ๕๔/๒๕๕๔  กรณีชาวโรฮิงญาถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยถูกเจ้าหน้าที่ตำารวจจับกุม
                  และกักขังไว้ในห้องกักจังหวัดระนอง ภูเก็ต พังงา สงขลา

                         คำาร้องที่ ๓๘๘/๒๕๕๔  กรณีชาวโซมาเลียถูกกักกันที่ห้องกักผู้โดยสารต้องห้ามท่าอากาศยาน
                  สุวรรณภูมิโดยไม่มีกำาหนดเวลาสิ้นสุด

                         คำาร้องที่ ๕๙๘/๒๕๕๔  กรณีชาวอินโดนีเซีย คองโก ชาวเวียดนาม และชาวกัมพูชา ถูกกักกัน



        


        ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงคราม  และข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ. คนเข้าเมือง  พ.ศ. ๒๕๒๒
   141   142   143   144   145   146   147   148   149   150   151