Page 724 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 724
การตรวจสอบว่า “ผลการตรวจสอบที่ได้เกิดจากท าการตรวจสอบข้อมูลครบถ้วนตาม
ความเหมาะสมแล้ว ไม่ใช่ตรวจสอบเพียงแค่ข้อมูลที่หาได้จากความร่วมมือ” ซึ่ง
แนวทางดังกล่าวนอกจากจะเป็นการยืนยันถึงคุณภาพด้านการตรวจสอบ ความ
ตรงไปตรงมา แล้วยังเป็นเสมือนการสื่อสารทางสังคมอีกช่องทางหนึ่งให้เห็นว่า กสม.
เป็นหน่วยงานที่ท างานอย่างจริงจังตรงไปตรงมา
3) การสนับสนุนจากสื่อและพลังทางสังคม
แนวคิดเพื่อสร้างการสนับสนุนจากสื่อและพลังทางสังคม เน้นที่สื่อสารมวลชนและระบบ
การประชาสัมพันธ์เป็นหลัก ซึ่งนอกจากมุมมองที่เน้นด้านการประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชน
แล้ว คณะผู้วิจัยมีความคิดเห็นเพิ่มเติมดังนี้
1. พัฒนาความร่วมมือ กับหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นเครือข่ายใน
การสร้างแรงผลักดัน หรือพลังกระตุ้นทางสังคม เช่นการขึ้นบัญชีด าหน่วยงาน บริษัท
ั
องค์กรที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนและไม่ยอมแก้ไขปญหาตามผลการตรวจสอบ พร้อมทั้ง
รณรงค์ให้สังคมรับทราบ และตระหนักด้วยการปฏิเสธการซื้อสินค้า ใช้บริการ ฯลฯ
ในทางตรงข้ามอาจมีการประชาสัมพันธ์เพื่อให้เครดิตกับหน่วยงาน องค์กรที่แก้ไข
ั
ปญหาตามค าแนะน า เป็นต้น
2. น าประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนเข้าสู่ระบบการศึกษา ก าหนดให้มีกิจกรรมตามความ
เหมาะสม เพื่อเป็นการกระตุ้นให้พลังของเด็ก เยาวชน รวมถึงผู้ที่อยู่ในระบบ
ั
การศึกษามีส่วนร่วมกับปญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนมากขึ้น รวมถึงเป็นเครือข่าย
ในการปลูกถ่ายจิตส านึกไปยังบุคคลรอบตัว เช่นครอบครัว เพื่อน ฯลฯ
4) การใช้กลไกผลักดัน
เพื่อให้ผลการตรวจสอบสัมฤทธิ์ผล ถูกผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องน าไปปฏิบัติจริง
คณะผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะดังนี้
1. พัฒนาระบบฐานข้อมูลให้มีคุณภาพเพื่อสะดวกแก่การติดตามเรื่อง
2. ปรับโครงสร้างระบบติดตามโดยยุบกลุ่มติดตาม แต่มอบหมายให้กลุ่มที่ท าหน้าที่
ตรวจสอบเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบต่อเนื่องในขั้นตอนการติดตาม
3. ระบบการแจ้งผลการตรวจสอบควรขยายไปสู่ หน่วยงานระดับบังคับบัญชาด้วย เพื่อ
เป็นการกระตุ้นหน่วยงานใต้บังคับอีกทางหนึ่ง
- 605 -

