Page 621 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 621

อนุกรรมการ        “จริงๆ กฎหมายรัฐธรรมนูญ สภาพบังคับ กฎหมายก็ไม่ได้ชัดเจนเท่าไหร่ เพียงแค่ตรวจว่า

                                      มันมีการละเมิด อย่างที่มีการร้องเรียนหรือไม่ แล้วเพียงแต่แจ้งให้เขาปรับปรุงแก้ไข ถ้าเกิด
                                                      ่
                                      ไม่ท าก็เป็นเรื่องที่ฝายบริหารจะต้องไปด าเนินการเอาเอง มันก็เหมือนกับว่า กสม. หนักไป
                                      ทางด้านตรวจสอบเนื้อหา”


                                    “อ านาจหน้าที่ของ กสม. ไม่มีอะไรมากเลย สมมติถ้าเป็นการละเมิด กสม. มีหน้าที่แจ้งให้

                                      ปรับเปลี่ยนหรือแก้ไข ทีนี้ถ้ามาตรการตรงนี้ไม่สามารถลงโทษได้ การบังคับใช้มันก็อาจจะ

                                      เบาไปหน่อย”


                                    “เรื่องอ านาจกรรมการสิทธิเป็นเรื่องโครงสร้างของกรรมการสิทธิ ทีนี้เราก็ต้องดูที่มาของ

                                      กรรมการสิทธิตั้งแต่รัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัตินี้มันให้อ านาจมากน้อยเพียงใด เพราะ

                                      เท่าที่ดูพระราชบัญญัติที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร์ วุฒิสภานี้ให้อ านาจน้อยมาก เพราะฉะนั้น

                                      การปรับปรุงตรงนี้เป็นเรื่องยาก ถ้าหากว่ารัฐบาลไม่เอาด้วยก็ท าไม่ได้”


                                    “กรรมการสิทธิให้ความส าคัญแน่นอน เพราะว่าเป็นองค์กรรัฐธรรมนูญ และในขณะเดียวกัน

                                      เป็นองค์กรตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งจะไม่มีไม่ได้ ถ้าไม่มีเท่ากับว่าเราไม่ยอมรับ
                                      กฎหมายระหว่างประเทศที่ทางเขาก าหนดไว้ว่าต้องมีองค์กรสิทธิมนุษยชนที่ตรวจสอบการ

                                      ละเมิดสิทธิเกี่ยวกับการคุ้มครอง เพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์เยียวยา โดยเฉพาะการเยียวยา

                                      คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนมีน้อยมากหรือแทบไม่มีเลยในการที่จะมีอ านาจหน้าที่ในการ
                                                                                                   ั
                                      เยียวยาคนที่รับผลกระทบจากการละเมิดสิทธิ ถ้ามีอ านาจตัวนี้วิธีการแก้ปญหาก็จะเร็วขึ้น
                                                               ั
                                      แล้วยุติข้อพิพาทได้มากกว่าปจจุบัน”

                           ั
                         ปญหา ข้อจ ากัดด้านอ านาจหน้าที่ คณะผู้วิจัยท าการส ารวจภาคสนามรวม 3 ด้าน คือ 1)
                    ั
                                                        ั
                  ปญหาเกี่ยวกับอ านาจตามข้อกฎหมายปจจุบัน ไม่เอื้ออ านวยต่อการท างานในกระบวนการ
                  ตรวจสอบ  2) กรรมการไม่ค่อยน าอ านาจตามข้อกฎหมายมาใช้ในกระบวนการตรวจสอบ และ 3)

                         ั
                  กลไกปจจุบัน (ท าหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี รัฐสภา) ไม่เอื้ออ านวยต่อการผลักดันให้ข้อเสนอแนะ
                  จากผลการตรวจสอบ ถูกน าไปปฏิบัติจริง ซึ่งผลการส ารวจพบว่า กลไกผลักดันให้ข้อเสนอแนะ

                  จากผลการตรวจสอบถูกน าไปปฏิบัติจริง เป็นด้านเดียวที่อยู่ในระดับ “มาก” โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ

                                               ั
                  3.96 ขณะที่อีก 2 ด้านพบว่ามีปญหาในระดับ “ปานกลาง” โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.20 และ 3.12
                  ตามล าดับ รายละเอียดดังตารางที่ 7.8





                                                          - 513 -
   616   617   618   619   620   621   622   623   624   625   626