Page 617 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 617
กรรมการ “มีความเป็นอิสระดีมาก แล้วไม่มีใครมายุ่ง การแทรกแซงนี้แทบจะไม่มีเลย โดยเฉพาะชุดนี้
ไม่มี เว้นแต่ความคิดเห็นของแต่ละคนที่อาจจะไม่ตรงกัน”
“คิดว่าโดยเนื้อหาสาระของกรรมการสิทธิฯ มันไม่ใช่องค์กรที่ท าหน้าที่สั่งการ ไม่มีอ านาจใน
การที่จะไปบอกให้หน่วยงานนั้นหน่วยงานนี้ปฏิบัติตาม มันเป็นเพียงรายงานผลการ
ตรวจสอบการละเมิดสิทธิ เพราะฉะนั้นมันมีอิสระในเนื้องานของมัน”
“ชุดที่สังกัดอยู่ตรงนี้แทบจะไม่มีเข้ามา มันก็เป็นไปตามขั้นตอน แต่เราก็ไม่รู้ว่าในชุดก่อนที่
จะมาตรงนี้ มันจะมีอะไรหรือไม่ แต่ชุดเรามันไม่มีอะไรแทรกแซง”
อนุกรรมการ “มีอิสระเต็มร้อยเลย เพราะว่าอนุกรรมการคือทุกคนมีเสรีในการแสดงความคิดเห็น”
ั
“ส าหรับคณะตนเอง คือเราไม่ฟง เราไม่แคร์ใครทั้งนั้น ส าหรับในคณะผมจะเต็มที่ เท่าที่เรา
สามารถท าได้ แต่ก็มีภาคการเมืองเข้ามาบีบคั้นข้าราชการ ซึ่งท าให้เราไม่ได้รับความ
ร่วมมือจากหน่วยงานราชการจริงๆ”
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากการสัมภาษณ์อนุกรรมการส่วนหนึ่ง พบความคิดเห็นที่
น่าสนใจ เกี่ยวกับจุดยืนในการตัดสินใจของกรรมการสิทธิฯ ในประเด็นเกี่ยวกับการหยิบยก
ั
ตัดสินใจน าปญหาเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ ไว้ว่า
อนุกรรมการ “ถ้าในส่วนของอนุกรรมการเอง เท่าที่ผ่านมาไม่มีนะ ในเรื่องของมีใครมาแทรกแซงเพื่อจะ
ได้ผลเป็นไปตามที่เค้าต้องการอันนี้ไม่มี แต่ถ้าระดับกรรมการสิทธิ 7 ท่าน เท่าที่สัมผัสก็คือ
ว่า ยังไม่กล้าตัดสินใจ เรื่องใดที่มันจะมากระทบตัวเองหรือองค์กรก็แล้วแต่ ถึงแม้จะเป็น
เรื่องที่ถูกต้องที่ควรจะมีจุดยืน ก็คล้ายๆ ไม่ตัดสินใจ ก็คือจะไม่ท า เพราะอนุกรรมการไม่ได้
มีอ านาจเด็ดขาด เวลาเราตรวจสอบส านวนใดเสร็จ เราก็ต้องท ารายงานตรวจสอบให้
กรรมการสิทธิ 7 ท่าน เพื่อให้ทั้ง 7 ท่านลงมติอนุมัติ”
“การท างานที่ผ่านมา อ านาจหรือว่าข้อกฎหมาย หรือพูดง่ายๆว่าเครื่องมือที่มี กับกลุ่ม
ั
ั
ราชการ ไม่ค่อยมีปญหา กับภาคเอกชนอาจจะมีปญหาบ้าง แต่เราก็สามารถที่จะดูแลได้อยู่
ยกเว้นต้องใช้ข้อกฎหมายก็มี แต่น้อยมาก”
- 509 -

