Page 60 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 60
บทที่ 3
แนวคิด ความเป็นมาเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
จากการค้นคว้าเอกสารที่เกี่ยวข้อง พบว่าอัจณรา ฉายากุล (2546 : 1-4) ได้รวบรวม
แนวคิดเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนไว้อย่างกว้างขวาง โดยได้กล่าวถึงแนวคิดว่ามนุษย์มีสิทธิบน
พื้นฐานบางประการที่ควรจะได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศได้มีมานานแล้ว
ดังจะเห็นได้จากสนธิสัญญาต่อต้านการค้าทาสในช่วงศตวรรษที่ 19 หรือข้อตกลงเกี่ยวกับแนว
ปฏิบัติของรัฐในการท าสงครามให้ค านึงด้านมนุษยธรรม เช่น การห้ามใช้อาวุธร้ายแรงบาง
ประเภท การคุ้มครองเชลยศึกสงคราม ทหารที่ได้รับบาดเจ็บ และพลเรือน เป็นต้น หรือช่วงหลัง
สงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อมีการก่อตั้งองค์การสันนิบาตชาติ (League of Nations) ขึ้น สนธิสัญญา
สันติภาพ ค.ศ. 1919 ได้ประกันการปฏิบัติที่เป็นธรรมต่อบุคคลที่เป็นชนกลุ่มน้อย รวมทั้งแนว
ปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อยซึ่งอาศัยอยู่ในเขตดินแดน อย่างไรก็ดี แนวคิดหลักโดยทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับ
การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในช่วงก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น รัฐยังคงเป็นผู้ทรงสิทธิ
ั
(Subject) ปจเจกบุคคลไม่มีสถานะใดๆ ที่จะเรียกร้องหรือคุ้มครองสิทธิของตนภายใต้กลไกของ
กฎหมายระหว่างประเทศได้ หลักจารีตของกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงสนธิสัญญาหรือความ
ตกลงที่ได้พัฒนาขึ้นในช่วงดังกล่าวยังคงจ ากัดอยู่แต่เฉพาะกลุ่มบุคคลที่อยู่ภายใต้เขตอ านาจรัฐ
นอกจากนี้ รัฐยังมีอธิปไตยเหนือดินแดนและคนในชาติ โดยกฎหมายระหว่างประเทศไม่สามารถ
เข้าแทรกแซงเหนือเขตอ านาจรัฐ (Domestic Jurisdiction) ยกเว้นกรณีที่ระบุไว้ในสนธิสัญญาที่รัฐ
นั้นได้กระท าและรับเอาพันธกรณีไว้
้
เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ระบบกฎหมายระหว่างประเทศที่มีอยู่ไม่สามารถปองกันการ
รุกรานและการปฏิบัติอย่างโหดร้ายและไร้มนุษยธรรมต่อมนุษย์ด้วยกันได้ท าให้การจัดตั้งองค์การ
สหประชาชาติเมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลงเน้นความส าคัญของการสร้างสันติภาพการรักษาความ
มั่นคงร่วมกันของสมาชิกประชาคมโลก ซึ่งการเคารพสิทธิมนุษยชนถือเป็นองค์ประกอบที่ส าคัญ
ประการหนึ่งในการประกันความมั่นคงและสันติภาพของโลกและมวลมนุษยชาติดังกล่าว การ
้
จัดตั้งองค์การสหประชาชาติ จึงมีจุดมุ่งหมายที่ส าคัญประการหนึ่งคือ การปองกันมิให้เกิดการ
กระท าที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อมวลมนุษยชาติอย่างรุนแรงขึ้นอีกมาตรา 1 ของกฎบัตร
สหประชาชาติ จึงได้บัญญัติเรื่องการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการเคารพสิทธิมนุษยชนและ
เสรีภาพขั้นพื้นฐานอย่างเป็นสากล โดยไม่เลือกปฏิบัติในเรื่องเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา
กฎบัตรสหประชาชาติซึ่งได้รับการรับรองเมื่อ ค.ศ. 1945 ได้มีบทหรือมาตราที่เกี่ยวข้อง
กับสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจนอยู่หลายข้อ และถือเป็นเอกสารส าคัญในการรับรองหลักการเรื่อง
- 16 -