Page 56 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 56
ั
ขอบเขตเนื้อหา การสัมภาษณ์เชิงลึกครั้งนี้ ก าหนดขอบเขตเนื้อหาตามปญหาที่ค้นพบ
จากการศึกษาวิจัยในขั้นตอนที่ 1 เป็น 2 ส่วน คือ 1) ความล่าช้าของกระบวนการตรวจสอบการ
ั
ละเมิดสิทธิมนุษยชน และ 2) ปญหาความน่าเชื่อถือ การให้น ้าหนักความส าคัญกับผลการ
้
ตรวจสอบ และข้อเสนอแนะเพื่อการเยียวยาผู้ถูกละเมิด จ าแนกตามกลุ่มเปาหมายที่สัมภาษณ์
โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มแรกสอบถามโดยเน้นแนวคิดเชิงนโยบาย และการบริหารจัดการ
ทั่วไป และกลุ่มที่สองเน้นแนวคิดด้านข้อกฎหมาย ดังรายละเอียด
กลุ่มที่ 1 ประกอบด้วย ผู้บริหารส านักงาน คณะกรรมการสิทธิ คณะอนุกรรมการ
นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญองค์กรอิสระ เนื้อหาสัมภาษณ์ประกอบด้วย
1. ความล่าช้าของกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วย
1.1 ศูนย์ปฏิบัติการ เครือข่ายการท างานในพื้นที่
1.2 รูปแบบการใช้อ านาจ
1.3 โครงสร้างของทีมงานตรวจสอบ
1.4 การปรับขั้นตอน กระบวนการตรวจสอบ
ั
2. ปญหาความน่าเชื่อถือ การให้น ้าหนักความส าคัญกับผลการตรวจสอบ และ
ข้อเสนอแนะเพื่อการเยียวยาผู้ถูกละเมิด
2.1 การปรับเปลี่ยน เพิ่มเติมด้านข้อกฎหมาย
2.2 การสร้างการสนับสนุนจากพลังทางสังคม
กลุ่มที่ 2 ได้แก่นักกฎหมาย เนื้อหาสัมภาษณ์เหมือนกลุ่มที่ 1 คือความล่าช้าของ
ั
กระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน และปญหาความน่าเชื่อถือ การให้น ้าหนัก
ความส าคัญกับผลการตรวจสอบ และข้อเสนอแนะเพื่อการเยียวยาผู้ถูกละเมิด โดยเน้นแนวคิด
ด้านข้อกฎหมายเป็นส าคัญ
จรรยาบรรณในการวิจัย
การศึกษาวิจัยในครั้งนี้ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของจรรยาบรรณด้านวิจัยอย่างเคร่งครัด โดย
ค านึงถึงเงื่อนไขส าคัญ 3 ประการ
1. ความเป็นส่วนตัว (privacy) หมายถึงอิสระในการแสดงความคิดเห็น โดยคณะผู้วิจัยมี
้
การด าเนินการโดยเน้นความเป็นส่วนตัว และอิสระในการตอบค าถาม เพื่อให้กลุ่มเปาหมาย
ั
สามารถให้ข้อมูล ความคิดเห็นได้อย่างเป็นอิสระ ปราศจากการรบกวนจากปจจัยแวดล้อมอื่นๆ
- 13 -