Page 532 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 532
8) กระบวนการสรุปเสนอมาตรการแก้ไข
(8.1) จุดแข็ง/จุดเด่น
-การตัดสินว่าเรื่องร้องเรียนมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ ถ้ามีการ
ละเมิด คณะกรรมการจะเสนอข้อเสนอแนะ แนวทางการแก้ไขแก่ผู้ละเมิด ถ้าถูกเพิกเฉย
คณะกรรมการจะรายงานไปยังรัฐบาลในท้องถิ่นนั้นๆ และถ้ายังเพิกเฉยอีก ภายใน 60 วัน
คณะกรรมการจะส่งเรื่องต่อไปยังรัฐสภา และสุดท้ายหากยังไม่น าข้อเสนอแนะไปปฏิบัติอีก เรื่อง
ร้องเรียนนี้จะถูกเผยแพร่ไปสู่สาธารณะ
(8.2) ปัญหาอุปสรรค
-อย่างไรก็ตามแม้คณะกรรมการจะมีอ านาจในการตรวจสอบอย่างเต็มที่
ในกรณีที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนแต่ท้ายที่สุดแล้วค าตัดสินก็ไม่สามารถใช้บังคับตามกฎหมายได้
คงได้เพียงแต่เผยแพร่สู่สาธารณะเพื่อเป็นการลงโทษหากไม่ปฏิบัติตามเท่านั้น
9) กระบวนการผลักดันมาตรการแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชนให้
บรรลุผล
จุดแข็ง/จุดเด่น
-อินโดนีเซียมีแผนปฏิบัติการแห่งชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่ง
อินโดนีเซียประกอบด้วย ส่วนที่อธิบายมาตรการทั่วไปใน 4 สาขาหลักในการนาไปปรับใช้ และ
แผนกิจกรรม ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบต่อกิจกรรมต่าง ๆ และระบุชัดเจน
ว่ายินดีรับความช่วยเหลือระหว่างประเทศ ซึ่งมีการปรับใช้แผนปฏิบัติการ ใน 4 สาขาหลัก ดังนี้
(1) การเตรียมการให้สัตยาบันพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิ
มนุษยชน ในช่วงที่มีการประกาศใช้แผนฯ อินโดนีเซียได้ให้สัตยาบันสนธิสัญญาสิทธิมนุษยชน
ระหว่างประเทศเพียงจานวน 2 ฉบับ จาก 6 ฉบับแผนฯ ระบุว่า “การให้สัตยาบันสนธิสัญญา
ระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งและช่วยพัฒนากฎหมาย
ภายในประเทศเรื่องสิทธิมนุษยชน” ในแผนกิจกรรมก าหนด แผน 5 ปี เพื่อให้สัตยาบันสนธิสัญญา
ระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่เหลืออีก 4 ฉบับ รวมทั้งอนุสัญญาอีกหลายฉบับขององค์การ
แรงงานระหว่างประเทศ ในส่วนนี้ ประกอบด้วยข้อก าหนดทบทวนกฎหมายที่มีอยู่ และร่าง
กฎหมายใหม่ตามที่จ าเป็น และก าหนดแนวทางการด าเนินงานส าหรับเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้
ั
กฎหมาย แผนฯ ยังแก้ปญหาการพัฒนาศักยภาพเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามพันธกรณีรายงาน
อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
- 426 -

