Page 291 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 291

สมควรด าเนินการพัฒนาในรูปแบบเดียวกัน เพื่อสร้างความเชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายปกครอง

                  ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการวางระเบียบแบบแผนในการปฏิบัติราชการได้ต่อไป
                                         ้
                         โดยแนวคิดและเปาหมายดังกล่าว ส านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจึงได้เสนอให้มีการ

                  ตราพระราชบัญญัติคณะกรรมการกฤษฎีกา พ.ศ. 2522 ขึ้น เพื่อปรับปรุงการจัดองค์กร อ านาจ
                  หน้าที่และกลไกในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการกฤษฎีกาเสียใหม่โดยก าหนดแผนงานและ

                  ขั้นตอนของการพัฒนาคณะกรรมการกฤษฎีกาให้สอดคล้องกับการพัฒนาระบบวิธีพิจารณาคดี

                  ปกครองขึ้นในประเทศไทย โดยมีการจัดตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ขึ้น เพื่อท าหน้าที่

                  วินิจฉัยข้อพิพาทในคดีปกครองต่างหากจากคณะกรรมการร่างกฎหมายซึ่งยังคงไว้เช่นเดิม

                         ตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการกฤษฎีกา พ.ศ. 2522 คณะกรรมการกฤษฎีกา

                  ประกอบด้วย กรรมการ 2  ประเภท คือ กรรมการร่างกฎหมายท าหน้าที่ที่ปรึกษากฎหมายให้แก่

                  รัฐบาล และกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ท าหน้าที่วินิจฉัยร้องทุกข์ (คดีปกครอง)   โดยมี

                  นายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยต าแหน่ง ท าหน้าที่ควบคุมดูแลกิจการของ

                  คณะกรรมการกฤษฎีกา และมีเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาซึ่งเป็นกรรมการร่างกฎหมาย
                  และกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์โดยต าแหน่งท าหน้าที่ควบคุมดูแลราชการของส านักงาน

                  คณะกรรมการกฤษฎีกาโดยรับผิดชอบขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการกฤษฎีกา

                         1. กรรมการร่างกฎหมาย มีอ านาจหน้าที่ในการจัดท าร่างกฎหมายรับปรึกษาให้ความเห็น

                  ทางกฎหมายแก่หน่วยงานของรัฐหรือตามค าสั่งของนายกรัฐมนตรีหรือมติคณะรัฐมนตรี ตลอดจน

                  เสนอความเห็นและข้อสังเกตต่อคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการให้มีกฎหมายหรือแก้ไขปรับปรุงหรือ

                  ยกเลิกกฎหมาย ซึ่งคล้ายคลึงกับอ านาจหน้าที่ของกรรมการร่างกฎหมายตามพระราชบัญญัติว่า

                  ด้วยคณะกรรมการกฤษฎีกาพุทธศักราช 2476
                         ส าหรับกรรมการร่างกฎหมายนั้น จะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าแต่งตั้งขึ้นตามค าแนะน า

                  ของคณะรัฐมนตรี จากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญในทางนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ฯลฯ และมี

                  คุณสมบัติตามที่กฎหมายก าหนดไว้ โดยมีวาระการด ารงต าแหน่งคราวละสามปี และจะทรงพระ

                  กรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งผู้ที่พ้นจากต าแหน่งแล้วอีกก็ได้

                         2. กรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ มีอ านาจหน้าที่ในการวินิจฉัย เรื่องร้องทุกข์ซึ่งคล้ายคลึงกับ

                  อ านาจหน้าที่ของ “คณะกรรมการเรื่องราวร้องทุกข์” ตามพระราชบัญญัติเรื่องราวร้องทุกข์ พ .ศ.

                  2492 แต่ต่างจากอ านาจหน้าที่ของ “คณะกรรมการกฤษฎีกา” ตามพระราชบัญญัติว่าด้วย

                  คณะกรรมการกฤษฎีกา พุทธศักราช 2476 ในแง่ที่ว่า กรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ยังไม่มีอ านาจที่

                  จะพิจารณาพิพากษาคดีปกครองได้ด้วยตนเองเหมือนกับกรรมการกฤษฎีกา โดยมีอ านาจหน้าที่
                  แต่เพียงพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ตามวิธีพิจารณาคดีในลักษณะเดียวกับการพิจารณาคดีของ



                                                          - 242 -
   286   287   288   289   290   291   292   293   294   295   296