Page 182 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 182
3. ผู้ร้องเป็นผู้ท าการแทนองค์การเอกชนที่มิได้แจ้งชื่อต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติว่าจะสามารถรับค าร้องและพิจารณาเบื้องต้นเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการ ตามมาตรา 24
4. กรณีอื่นๆ ที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติหยิบยกขึ้นมาพิจารณา
ทั้งนี้ เรื่องที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเห็นสมควรตรวจสอบถือว่าเป็นค าร้อง
ตามระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการตรวจสอบ
การละเมิดสิทธิมนุษยชน พ.ศ. 2545 ข้อ 3 ซึ่งก าหนดว่า “ค าร้อง” หมายความว่าเรื่องที่มี
ผู้ร้องเรียน และให้หมายความถึงเรื่องที่คณะกรรมการหยิบยกขึ้นพิจารณาด้วย
ในกรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเห็นว่า กรณีร้องเรียนมีมูลและอยู่ใน
อ านาจหน้าที่ของคณะกรรมการ สมควรรับค าร้องไว้พิจารณาตรวจสอบคณะกรรมการ
สิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะเริ่มด าเนินกระบวนพิจารณาตรวจสอบตามมาตรา 2 5 แห่ง
พระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2542 โดยแจ้งไปยังบุคคลหรือ
หน่วยงานที่ถูกร้องเรียนหรือที่คณะกรรมการเห็นว่าเกี่ยวข้อง เพื่อให้บุคคลหรือหน่วยงานนั้น
ชี้แจงข้อเท็จจริงภายในระยะเวลาสิบห้าวันนับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งจากคณะกรรมการ โดย
ผู้รับผิดชอบค าร้องจะรวบรวมข้อเท็จจริงเบื้องต้นต่างๆ จากค าร้องและค าชี้แจงข้อเท็จจริงของ
บุคคลหรือหน่วยงานที่ถูกร้องว่าเป็นผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิ
มนุษยชนและพยานหลักฐานต่างๆ ที่ได้จากผู้ร้อง และหลักฐานต่างๆ ประกอบค าชี้แจงข้อเท็จจริง
โดยท าบันทึกสรุปเบื้องต้นเสนอต่อคณะกรรมการ
เมื่อพ้นระยะเวลาการชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าว คณะกรรมการจะพิจารณาจากบันทึกสรุป
เบื้องต้น และด าเนินการพิจารณาตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 26 โดยต้องให้
โอกาส ผู้ร้องหรือผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงรายละเอียดและเสนอพยานหลักฐานตาม
สมควร เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการการะท าที่มีการอ้างว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และ
อาจให้คู่กรณี บุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาปรากฏตัวต่อหน้าคณะกรรมการ โดยแจ้งให้
คู่กรณีทราบล่วงหน้า
อ านาจในการรับฟังข้อเท็จจริง และแสวงหาพยานหลักฐาน
ในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีอ านาจ
ั
กึ่งตุลาการ ในการรับฟงข้อเท็จจริงและแสวงหาพยานหลักฐาน ดังนี้
1. มีหนังสือสอบถามส่วนราชการหน่วยงานของรัฐ หรือ รัฐวิสาหกิจ เพื่อให้มีหนังสือ
ชี้แจงข้อเท็จจริง หรือให้ความเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการหรืองานใดๆ หรือส่งวัตถุ เอกสาร
หรือพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือส่งผู้แทนมาชี้แจงหรือให้ถ้อยค าประกอบการพิจารณา
- 137 -