Page 184 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 184
แนวทางด าเนินการไกล่เกลี่ย
กระบวนการไกล่เกลี่ยจะเริ่มได้เมื่อได้มีการรวบรวมข้อเท็จจริงจนสามารถทราบถึง
ั
เหตุการณ์และปญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นว่าเป็นกรณีที่อาจด าเนินไกล่เกลี่ยได้ จากนั้น จะมีการ
เชิญผู้ร้องและผู้ถูกร้องเข้าสู่กระบวนการเจรจา ซึ่งอาจจะเป็นการเปิดโอกาสให้คู่กรณีได้เจรจากัน
โดยตรง หรือแยกไกล่เกลี่ยแล้วแต่กรณี โดยอาจต้องมีการประชุมหลายครั้ง จนกว่าจะหาวิธีการ
ั
่
แก้ไขปญหาที่เป็นที่พอใจของคู่กรณีทั้งสองฝายได้ หากคู่กรณีตกลงกันได้ จะมีการจัดท าบันทึก
ข้อตกลงที่คู่กรณีได้ตกลงกันไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งอาจจัดท าโดยผู้รับผิดชอบค าร้องหรือผู้ที่
คู่กรณีเห็นสมควรให้เป็นผู้จัดท าบันทึกข้อตกลง หรือผู้ที่คณะกรรมการมอบหมายแล้วสรุป
ข้อตกลงให้คู่กรณีได้รับทราบว่า จะสามารถปฏิบัติตามข้อตกลงได้ จึงให้คู่กรณีลงนามในบันทึก
ข้อตกลง
การจัดกลไกในการไกล่เกลี่ย
ั
กลไกส าคัญในการไกล่เกลี่ยประนีประนอมเพื่อแก้ไขปญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน คือ
ผู้ท าหน้าที่คนกลางในการด าเนินการไกล่เกลี่ย ซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ อาจ
มอบหมายให้คณะอนุกรรมการที่มีความรู้และประสบการณ์ในการไกล่เกลี่ยท าการแทนก็ได้โดย
ผู้ด าเนินการไกล่เกลี่ย จะจัดให้คู่กรณีได้พบและประชุมเจรจารวมกัน หรือแยกกันเจรจา ณ ห้อง
ประชุมของส านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือสถานที่ที่เป็นการสะดวกส าหรับ
คู่กรณี
ในการปฏิบัติของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มักจะเป็นการไกล่เกลี่ยในระดับ
อนุกรรมการคณะต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบค าร้องนั้นๆ โดยไม่ได้มีการแต่งตั้ง
คณะอนุกรรมการเพื่อท าหน้าที่ไกล่เกลี่ยโดยตรงขึ้นมาใหม่
ผลของการไกล่เกลี่ย
ั
ในการไกล่เกลี่ยประนีประนอมเพื่อแก้ไขปญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนดังกล่าวนั้น
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะท าหน้าที่ในฐานะคนกลางในการเจรจาแก้ไขข้อพิพาท
โดยอาศัยความสมัครใจของคู่กรณี แล้วท าข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรและให้ยุติเรื่องโดยที่
คณะกรรมการไม่มีอ านาจที่จะด าเนินให้มีสภาพบังคับใดๆ หากไม่สามารถไกล่เกลี่ย
ประนีประนอมได้ก็ต้องด าเนินการพิจารณาตรวจสอบต่อไปจนเสร็จสิ้น
- 139 -