Page 451 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 451
เพื่อประโยชน์ในการดําเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตาม (4) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตาม
่
พระราชบัญญัตินี้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติปาสงวนแห่งชาติ และมีอํานาจในการให้
่
เช่าที่ดินอันเป็นปาสงวนแห่งชาติดังกล่าวได้ และให้ค่าเช่าที่ได้มาตกเป็นของกองทุนการปฏิรูปที่ดิน
เพื่อเกษตรกรรม”
บทบัญญัติในพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2532 ตาม
มาตรา 9 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสามของมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อ
เกษตรกรรม พ.ศ. 2518
“ในการจัดซื้อที่ดินตามมาตรานี้ ถ้าเจ้าของที่ดินประสงค์จะขายที่ดินของตนให้ทั้งหมด ก็ให้ ส.
ป.ก. มีอํานาจจัดซื้อได้”
บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2532 ตาม
มาตรา 10 ให้ยกเลิกความในมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรม พ.ศ. 2518
บัญญัติว่า
“มาตรา 30 ในเขตปฏิรูปที่ดิน ถ้าเป็นที่ดินของรัฐซึ่งมีจํานวนเนื้อที่ตั้งแต่หนึ่งหมื่นไร่ขึ้นไป ให้
คณะกรรมการจัดให้สถาบันเกษตรกรเช่าระยะยาว ถ้าเป็นที่ดินของรัฐซึ่งมีจํานวนเนื้อที่ไม่ถึงหนึ่งหมื่น
ไร่ คณะกรรมการจะให้สถาบันเกษตรกรหรือเกษตรกรเช่าระยะยาวก็ได้ แต่จะโอนสิทธิในที่ดินของรัฐ
นั้นมิได้ แต่ถ้าเป็นที่ดินที่ได้มาโดยการจัดซื้อหรือเวนคืน คณะกรรมการจะให้เกษตรกรหรือสถาบัน
เกษตรกรเช่าระยะยาวหรือเช่าซื้อตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการกําหนด ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) เกษตรกรและบุคคลในครอบครัวเดียวกันซึ่งประกอบเกษตรกรรมประเภทอื่น เว้นแต่ (3)
จํานวนไม่เกินห้าสิบไร่
(2) เกษตรกรและบุคคลในครอบครัวเดียวกันซึ่งประกอบเกษตรกรรมเพื่อการเลี้ยงสัตว์จําพวก
สัตว์ใหญ่ตามที่รัฐมนตรีประกาศตามมาตรา 29 (2) จํานวนไม่เกินหนึ่งร้อยไร่
(3) สถาบันเกษตรกรซึ่งจะนําที่ดินไปจัดให้แก่เกษตรกรตาม (1) หรือ (2) เช่าระยะยาวหรือเช่า
ซื้อ จํานวนเนื้อที่ที่ดินตามแต่คณะกรรมการจะเห็นสมควร”
บทบัญญัติในพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2532 กําหนดให้
ใช้ความแทนว่า
“มาตรา 30 บรรดาที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ที่ ส.ป.ก. ได้มา ให้ ส.ป.ก. มีอํานาจจัดให้
เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรได้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่คณะกรรมการกําหนด ทั้งนี้
ตามขนาดการถือครองในที่ดินดังกล่าวต่อไปนี้
(1) จํานวนที่ดินไม่เกินห้าสิบไร่ สําหรับเกษตรกรและบุคคลในครอบครัวเดียวกัน ซึ่งประกอบ
เกษตรกรรมอย่างอื่นนอกจากเกษตรกรรมเลี้ยงสัตว์ใหญ่ตาม (2)
(2) จํานวนที่ดินไม่เกินหนึ่งร้อยไร่ สําหรับเกษตรกรและบุคคลในครอบครัวเดียวกัน ซึ่งใช้
ประกอบเกษตรกรรมเลี้ยงสัตว์ใหญ่ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศกําหนด
8‐16